ความล้มเหลวและความไม่สอดคล้องทางไวรัสและทางภูมิคุ้มกันใน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีผู้ใหญ่ที่รักษาด้วยยาต้านไวรัสในโรงพยาบาลสกลนคร
บทคัดย่อ
การตรวจนับจำนวนเซลล์ทีลิมโฟไซท์ชนิดซีดี 4 (CD4) และการตรวจหาปริมาณเชื้อเอชไอวีในกระแสเลือด(HIV viral load) ใช้ติดตามและประเมินผลการรักษาด้วยยาต้านไวรัสในผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ การศึกษาย้อนหลังเชิงพรรณนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์ความล้มเหลวทางไวรัส ความล้มเหลวทางภูมิคุ้มกัน และการตอบสนองแบบไม่สอดคล้องกันในทางไวรัสและภูมิคุ้มกัน และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเพศอายุ และระดับ CD4 กับความล้มเหลวทางไวรัสและทางภูมิคุ้มกัน ในผู้ติดเชื้อเอชไอวีผู้ใหญ่รายใหม่ที่รักษาด้วยยาต้านไวรัสสูตรแรกหลังรับยาต้านไวรัส6เดือนขึ้นไปในโรงพยาบาลสกลนครตั้งแต่ปีพ.ศ.2558–2560วิเคราะห์ผลการตรวจ CD4 และ HIV Viral load จาก National AIDS Program (NAP) ด้วยสถิติ ความถี่ ร้อยละค่าเฉลี่ย มัธยฐาน Pearson Chi–square test Odds Ratio และ 95%CI
ผลการศึกษา พบว่า ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์รายใหม่ 353 ราย มีอายุเฉลี่ย 34.7 ปี ค่ามัธยฐานระดับ CD4 ก่อนรับยาต้านไวรัส 211 cell/mm3 พบความล้มเหลวทางไวรัส 35 ราย ความล้มเหลวทางภูมิคุ้มกัน58 ราย ความล้มเหลวทางไวรัสร่วมกับความล้มเหลวทางภูมิคุ้มกัน 12 ราย การตอบสนองแบบไม่สอดคล้องทางไวรัส 23 ราย การตอบสนองแบบไม่สอดคล้องทางภูมิคุ้มกัน 46 ราย ระดับ CD4 ก่อนรับยาต้านไวรัส < 200cell/mm3 มีความสัมพันธ์กับความล้มเหลวทางไวรัสอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Odds ratio = 4.13, 95%CI 1.820–9.371, p < 0.01) สถานการณ์ความล้มเหลวและการตอบสนองแบบไม่สอดคล้องกันดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ต่ำ จึงควรศึกษาปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องเช่นปัจจัยด้านผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยระบบบริการที่สามารถเข้าถึงได้ตั้งแต่ระดับCD4 ยังสูง เพื่อเพิ่มผลสำเร็จของการรักษา
คำสำคัญ: เอชไอวี การรักษาด้วยยาต้านไวรัส ความล้มเหลวทางไวรัส ความล้มเหลวทางภูมิคุ้มกัน การตอบสนองแบบไม่สอดคล้องกันในทางไวรัสและภูมิคุ้มกัน