การพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและประสิทธิผล ของโปรแกรมสง่เสรมิความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อการดูแลตนเอง ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง

ผู้แต่ง

  • นิพิฐพนธ์ แสงด้วง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบรูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเอง และเพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อการดูแลตนเอง ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง แบ่งการวิจัยเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาเชิงเปรียบเทียบสาเหตุ และระยะที่ 2 การวิจัยกึ่งทดลอง เครื่องมือสำหรับการวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า แบบสอบถามแบบเลือกตอบถูก-ผิด และโปรแกรมส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อการดูแลตนเองทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา เทคนิคการวิเคราะห์สมการโครงสร้าง chi-square t-test one–way MANOVA และ Repeated measure ANOVA   

ผลการวิจัยระยะที่ 1 พบว่า รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเอง ที่พัฒนาขึ้นมีความกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (Chi-Square= 7.02, df= 3, p-value= 0.07, RMSEA= 0.06, CFI= 1.00, GFI= 0.99, SRMR= 0.02) ผลการวิจัยระยะที่ 2 พบว่า ภายหลังการทดลองกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการดูแลตนเองสูงกว่าก่อนการทดลอง (t= 3.42, 3.86, p-value = 0.00, 0.00 ตามลำดับ) และมีค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกายน้อยกว่าก่อนการทดลอง (t= -2.04, p-value= 0.05) 2) กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการดูแลตนเองสูงกว่ากลุ่มควบคุม (F= 5.19, 18.79, Sig.= 0.03, 0.00 ตามลำดับ) ส่วนดัชนีมวลกายพบว่าแตกต่างจากกลุ่มควบคุมอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ และ3) พฤติกรรมการดูแลตนเองของกลุ่มทดลองมีแนวโน้มดีขึ้น (F= 4.21, p-value = 0.02) โดยมีค่าเฉลี่ยการดูแลสุขภาพตนเองตามหลัก 3อ2ส. ระยะติดตามผลเดือนที่ 3 สูงกว่าเดือนที่ 2 และเดือนที่ 1

คำสำคัญ : ความรอบรู้ด้านสุขภาพ การดูแลสุขภาพตนเอง โรคความดันโลหิตสูง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-29

วิธีการอ้างอิง