ผลของการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปาก เด็กวัยเรียนในจังหวัดแพร่โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ ที่ใช้กลไกของเกม

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองชนิดศึกษา 2 กลุ่มวัดผลก่อน-หลัง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากเด็กวัยเรียนในจังหวัดแพร่โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ใช้กลไกของเกม กลุ่มตัวอย่างนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 360 คน จำแนกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มควบคุมได้รับทันตสุขศึกษารูปแบบปกติและกลุ่มทดลองได้รับความรู้ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่ใช้กลไกของเกม ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้เชิงรุก เก็บข้อมูลระหว่างเดือนตุลาคม 2564 ถึง มีนาคม 2565 ด้วยแบบวัดความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากในการวัดความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากระดับพื้นฐานก่อนและหลังการทดลอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากก่อนและหลังการทดลองในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม โดยใช้สถิติทดสอบค่าทีชนิด 2 กลุ่มที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน และ สถิติทดสอบค่าทีชนิด 2 กลุ่ม ที่เป็นอิสระต่อกัน ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ผลการศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากระหว่างกลุ่ม พบว่า ก่อนทดลองคะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมไม่แตกต่างกัน แต่ภายหลังการทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value=0.01) ค่าเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากโดยรวมของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม และจากการเปรียบเทียบหลังการทดลอง พบว่า คะแนนเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปาก องค์ประกอบที่ 4 อาหารเสี่ยงต่อโรคฟันผุระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value=0.01) โดยกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มควบคุม การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ใช้กลไกของเกมในการศึกษานี้เป็นการพัฒนาสื่อและรูปแบบกระบวนการสื่อสารข้อมูลความรู้ที่จำเพาะเจาะจงเรื่องอาหารเสี่ยงต่อโรคฟันผุ ซึ่งเป็นเนื้อหาสาระที่จำเป็นและเป็นปัญหา ภายใต้เงื่อนไขและบริบทของเด็กกลุ่มเป้าหมาย มีประสิทธิผลต่อการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากระดับพื้นฐานของเด็กวัยเรียน