การศึกษาการเข้าใจความรู้สึกผู้ป่วยของนิสิตแพทย์ชั้นคลินิก โรงพยาบาลชลบุรี

ผู้แต่ง

  • สวรัตน์ ชัยจินดารัตน์ กลุ่มงานสูตินรีเวชกรรม
  • ภาสวิชญ์ เรืองปานกัน นิสิตแพทย์ ชั้นปีที่ 6 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก
  • วรพงศ์ กิตติอนงค์ นิสิตแพทย์ ชั้นปีที่ 6 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก
  • วิยดารัตน์ ดุลยลักษณานนท์ นิสิตแพทย์ ชั้นปีที่ 6 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก
  • สรวิศา ฟองฟู นิสิตแพทย์ ชั้นปีที่ 6 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก
  • สิรภพ สาตสำอางค์ นิสิตแพทย์ ชั้นปีที่ 6 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก

บทคัดย่อ

หลักการและเหตุผล: การเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วยเป็นคุณสมบัติสำคัญที่แพทย์ทุกคนควรมี การศึกษาวิจัยทางด้านนี้ในบุคลากรที่อยู่ในโรงพยาบาลรัฐบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขยังมีน้อย ทำให้ทีมผู้วิจัยมีความสนใจที่จะศึกษาการเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วย ที่มีความสัมพันธ์กับปัจจัยที่สนใจเพื่อสะท้อนปัญหาและส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต

วิธีการศึกษา: งานวิจัยนี้เป็นแบบการศึกษาแบบตัดขวาง ตั้งแต่เดือน ตุลาคม ถึง ธันวาคม 2565 ในนิสิตแพทย์ชั้นคลินิก โรงพยาบาลชลบุรี จำนวน 106 คน โดยใช้แบบวัดการเข้าใจความรู้สึกผู้ป่วย Jefferson Scale of Physician Empathy Student Version (JSPE-S), แบบสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวกับความรู้สึกเครียด (ST-5) และแบบประเมินภาวะเหนื่อยล้า หมดไฟของกรมสุขภาพจิต นำข้อมูลมาวิเคราะห์เปรียบเทียบปัจจัยด้านสังคมและประชากร ความเครียด กับคะแนนการเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วย

ผลการศึกษา: ผู้ตอบทั้งหมด 49 คน คิดเป็น 46.22% จากนิสิตแพทย์ทั้งหมด โดยเป็นเพศหญิง 26 คน เพศชาย 23 คน ส่วนใหญ่มีเกรดเฉลี่ยในช่วง 3.01-3.50 จำนวนชั่วโมงการนอนต่อวัน มีค่ามัธยฐาน คือ 6 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนใหญ่เข้าร่วมกิจกรรมจริยธรรมสาธกทุกครั้ง มีค่ามัธยฐานคะแนนความเครียด อยู่ที่ 8 (5.5, 10.5) แปลผลว่าอยู่ที่ระดับมาก มีค่ามัธยฐานความเสี่ยงภาวะหมดไฟ อยู่ที่ 2 (1, 3) แปลผลว่ามีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดภาวะเหนื่อยล้า หมดไฟ คะแนนการเข้าใจความรู้สึกผู้ป่วยอยู่ระหว่าง 44 ถึง 124 คะแนนโดยมีค่ามัธยฐานเป็น 99 (90, 108) ส่วนใหญ่มีคะแนนอยู่ในช่วง 91-95 (ร้อยละ 22.5) จากคะแนนเต็ม คือ 140 คะแนน พิจารณาตามปัจจัยพบว่า คะแนนของเพศหญิงมีมากกว่าเพศชายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.025) ชั้นปีที่มีคะแนนค่ามัธยฐานสูงสุดคือชั้นปี 5 มีผลทำให้คะแนนการในการเข้าใจความรู้สึกผู้ป่วยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.033) และเมื่อนำปัจจัยที่มีความสัมพันธ์และมีอิทธิพลต่อ Jefferson score มาวิเคราะห์แบบพหุปัจจัยพบว่า เพศ และ ระดับความเครียดมากที่สุด มีผลต่อ Jefferson score อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.011 และ 0.05 ตามลำดับ)

อภิปรายผล: ระดับคะแนนการเข้าใจความรู้สึกผู้ป่วย อยู่ที่ 99 (90, 108) คะแนน โดยเมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนการเข้าใจความรู้สึกผู้ป่วยระหว่างนิสิตแพทย์ในแต่ละระดับชั้นปีพบว่า ชั้นปีที่ 5 มีคะแนนสูงกว่าชั้นปีอื่น และเมื่อพิจารณาจากปัจจัยที่กำหนด พบว่า เพศหญิงและความเครียดระดับเครียดมากที่สุดมีผลต่อคะแนนการเข้าใจความรู้สึกผู้ป่วยมากที่สุด และสาเหตุที่ทำให้คะแนนในชั้นปีที่ 5 สูงกว่าชั้นปีอื่น เนื่องจากเป็นชั้นปีที่ตอบแบบสอบถามมากที่สุด

สรุปผล: เมื่อพิจารณาปัจจัยด้านเพศ ชั้นปี เกรดเฉลี่ย จำนวนการเข้าร่วมกิจกรรมจริยธรรมสาธก ชั่วโมงการอยู่เวร ชั่วโมงการนอน ปัจจัยด้านความเครียดและภาวะ burnout พบว่า ปัจจัยด้านเพศและความเครียดที่เครียดมากที่สุดมีผลต่อคะแนนการเข้าใจความรู้สึกผู้ป่วย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

Take home message: เพศและความเครียดมีผลต่อคะแนนการเข้าใจความรู้สึกผู้ป่วย

คำสำคัญ : การเข้าใจความรู้สึกผู้อื่น, นิสิตแพทย์, การดูแลผู้ป่วย

 

ประวัติผู้แต่ง

สวรัตน์ ชัยจินดารัตน์, กลุ่มงานสูตินรีเวชกรรม

ศูนย์แพทย์ศาสตร์ศึกษาชั้นคลีนิก โรงพยาบาลชลบุรี

ภาสวิชญ์ เรืองปานกัน, นิสิตแพทย์ ชั้นปีที่ 6 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก

โรงพยาบาลชลบุรี

วรพงศ์ กิตติอนงค์, นิสิตแพทย์ ชั้นปีที่ 6 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก

โรงพยาบาลชลบุรี

วิยดารัตน์ ดุลยลักษณานนท์, นิสิตแพทย์ ชั้นปีที่ 6 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก

โรงพยาบาลชลบุรี

สรวิศา ฟองฟู, นิสิตแพทย์ ชั้นปีที่ 6 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก

โรงพยาบาลชลบุรี

สิรภพ สาตสำอางค์, นิสิตแพทย์ ชั้นปีที่ 6 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก

โรงพยาบาลชลบุรี

เอกสารอ้างอิง

Roger CR. Client-centered therapy: its current practice, implications, and theory. Boston: Houghton Mifflin; 1951.

Dallas JC. Empathy: the power for developing nursing profession. Nursing Journal of the Ministry of Public Health 2016;22:13-24.

ดวงกมล ศรีประเสริฐ. อำนาจแพทย์และรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย. วารสารธรรมศาสตร์ [อินเทอร์เน็ต]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2565];37(1):78-95. เข้าถึงได้จาก: http://tujournals.tu.ac.th/thammasatjournal/detailart.aspx?ArticleID=2869

ภาคภูมิ แสงกนกกุล. การรักษาเป็นสินค้าและความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับคนไข้ในฐานะผู้บริโภค [อินเทอร์เน็ต]. 2555 [เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hfocus.org/content/2012/11/1660

แสวง บุญเฉลิมวิภาส. ปัญหาฟ้องร้องทางการแพทย์และแนวทางแก้ไข (1) [อินเทอร์เน็ต]. 2551 [เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://www.doctor.or.th/clinic/detail/7043

Gianakos D. Empathy revisited. Arch Intern Med 1996;22:135-6.

Jumroonrojana K, Zartrungpak S. Development of the Jefferson Scale of Physician Empathy – Student Version (Thai Version). Journal of the Psychiatric Association of Thailand 2012;57:213-24.

McTighe AJ, DiTomasso RA, Felgoise S, Hojat M. Effect of medical education on empathy in osteopathic medical students. The Journal of the American Osteopathic Association 2016;116(10):668-74.

Santiago LM, Rosendo I, Coutinho ML, Maurício KS, Neto I, Simões JA. Comparing empathy in medical students of two Portuguese medicine schools. BMC Medical Education 2020;20(1):153.

Neumann M, Edelhäuser F, Tauschel D, Fischer MR, Wirtz M, Woopen C, Haramati A, Scheffer C. Empathy decline and its reasons: a systematic review of studies with medical students and residents. Acad Med. 2011 Aug;86(8):996-1009.

Fowler LA, Ellis S. The effect of 12 hr shifts, time of day, and sleepiness on emotional empathy and burn out in Medical Students. Clocks Sleep. 2019;1(4):501-9.

Hizomi Arani R, Naji Z, Moradi A, Shariat SV, Mirzamohamadi S, Salamati P. Comparison of empathy with patients between first-year and last-year medical students of Tehran University of Medical sciences. BMC Med Educ. 2021;21(1):460.

Kerdcharoen N, Jakeepaiboon J, Roeklaksanee D, Kirdthongtawee B, Mapuloh P, Moolsilp W, Sanguanklin A. Stress and socio-demographic factors related to empathy among medical students in Faculty of Medicine Vajira Hospital. Vajira Medical Journal: Journal of Urban Medicine 2018;62(4):289-98.

ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลชลบุรี. รูปภาพกิจกรรม [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://sites.google.com/view/cmec-chon?fbclid=IwAR2mj-ip740sUGUwNJTFnRVuxB2XKnXe-c8CMyitqBUpFzc2exfaPcVckro

แพทยสภา. เกณฑ์ความรู้ความสามารถในการประเมินเพื่อรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2555 [อินเทอร์เน็ต]. 2555 [เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: http://med.swu.ac.th/th/images/2555.pdf

เจาะลึกระบบสุขภาพ. ผอ.รพ.ชลบุรี ชี้บัตรทอง ต้นเหตุทำผู้ป่วยล้น รพ. แถมบุคลากรไม่พอ พยาบาลขาดแคลนเกือบครึ่ง [อินเทอร์เน็ต]. 2558 [เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://www.hfocus.org/content/ 2015/07/10481

Rezayat AA, Shahini N, Asl HT, Jarahi L, Behdani F, Shojaei SRH, Abadi JSA. Empathy score among medical students in Mashhad, Iran: study of the Jefferson Scale of Physician Empathy. Electronic Physician 2018;10(7):7101–6.

Yue Z, Qin Y, Li Y, Wang J, Nicholas S, Maitland E, Liu C. Empathy and burnout in medical staff: mediating role of job satisfaction and job commitment. BMC Public Health. 2022;22(1):1033.

Sumpuntapong A, Nongkai Na S, Sujirarat D. Stress of nurses and nursing assistants in medical unit a government university hospital. Journal of Boromarajonani College of Nursing, Bangkok 2015;31:94-100.

Boontham A, Songsawangthum M, Anan K, Chaopipat Y, Boaleung T. Empathy in bachelor of nursing science students, Phrapokklao College of Nursing, Chanthaburi. J Prapokklao Hosp Clin Med Educat Center. 2018;3:296-300.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-01-02