The Outcomes of HIV Care Intervention by Pharmacist
Keywords:
HIV, pharmacist, medication therapy management, differentiated careAbstract
Background: A HIV care model development had been applied from Medication Therapy Management (MTM) incorporating with Differentiated Care Services delivery. The main goals were viral load suppression, increasing CD4 level, reducing complications or comorbidities and encouraging retention in HIV care continuously for their whole lives.
Objective: To assess outcome of HIV care model for People Living with HIV/AIDS (PLHIVs) by pharmacist.
Method: We conducted a retrospective study on newly diagnosed PLHIVs in Outpatient Department (OPD) in the fiscal year 2020 by comparing treatment outcomes before and after the development of HIV care model. Before this model development, all newly diagnosed PLHIVs had been monitored by physicians every 6 months. After the model implementation, newly diagnosed stable PLHIVs were referred for monitoring every 3 months until complete 12 months by pharmacists without doctor visit. MTM had been applied for drug dispensing and medication refill for PLHIVs.
Result: 26 eligible PLHIVs were recruited for the study. The result indicated that virally suppressed PLHIVs (< 50 copies/ml) increased from 76.92% to 84.62% and Antiretroviral drugs adherence from 98.06% to 99.81%, not significantly different (p > 0.05). Average numbers of CD4 were increased significantly from 403.77 to 506.58 cells/mm3 (p < 0.05). The waiting time was significantly decreased 84.30 minutes (p < 0.05).
Conclusion: The outcome showed that all recruited PLHIVs were clinically stable, with no additional opportunistic infections and ARV adherence more than 95%. Numbers of virally suppressed PLHIVs (VL < 50 copies/ml) were not different after the new model implementation. Moreover, they had improved immune response and waiting time during in the hospital was shortened.
References
สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. แนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทยปี 2560 [อินเตอร์เน็ต]. นนทบุรี: กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2560 [สืบค้นเมื่อ 6 พฤษภาคม 2566]. สืบค้นจาก https://www.thaiaidssociety.org/wp-content/uploads/2022/02/Thailand-National-Guidelines-on-HIV-AIDS-Treatment-and-Prevention-2017.pdf
ศศิธร แสงเนตร. ผลการบริบาลทางเภสัชกรรมในคลินิกผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ในโรงพยาบาลวาปีปทุม. วารสารวิชาการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [สืบค้นเมื่อ 6 พฤษภาคม 2566];4(8):1-12 สืบค้นจากhttps://thaidj.org/index.php/AJMP/article/view/9512/8536
นิตยา ภาพสมุทร, ปริญญา จันทร์บรรเจิด, พรทิพย์ วรนัยพินิจ และคณะ. ประสิทธิผลการใช้ยาของผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อเอชไอวี ที่ได้รับยาต้านไวรัส ณ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี. ไทยเภสัชศาสตร์และวิทยาการสุขภาพ [อินเตอร์เน็ต]. 2553 [สืบค้นเมื่อ 6 พฤษภาคม 2566];5(4):309-15. สืบค้นจาก https://ejournals.swu.ac.th/index.php/pharm/article/view/2565/2583
Hazen RJ, Halbur D, Mills B, Kirkham HS, Hou j. Evaluation of medication therapy issues, resolutions, and adherence among persons with HIV in the Pharmacist-Led Patient-Centered HIV Care Model. J Acquir Immune Defic Syndr. 2021;88(1):96-102. doi: 10.1097/QAI.0000000000002732.
อาภรณี ไชยาคำ, สุณี เลิศสินอุดม, สุภัสร์ สุบงกช, บรรณาธิการ. Contemporary reviews in pharmacotherapy 2010: lesson from practice. พิมพ์ครั้งที่ 1. ขอนแก่น: คลังนานาวิทยา; 2553. หน้า 128-40.
American Pharmacists Association and the National Association of Chain Drug Stores Foundation. Medication therapy management in pharmacy practice: core elements of an MTM service model (version 2.0). J Am Pharm Assoc (2003). 2008;48:341-53. doi: 10.1331/JAPhA.2008.08514.
McGivney MS, Meyer SM, Duncan-Hewitt W, Hall DL, Goode J-VR, Smith RB. Medication therapy management: its relationship to patient counseling, disease management, and pharmaceutical care. J Am Pharm Assoc (2003). 2007;47(5):620-8. doi: 10.1331/JAPhA.2007.06129.
กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. แนวทางการจัดบริการรับยาต้านไวรัสสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการคงที่ โดยมีผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง ตามบริบทของหน่วยบริการสุขภาพในไทย [อินเตอร์เน็ต]. นนทบุรี: กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค; 2563 [สืบค้นเมื่อ 6 พฤษภาคม 2566]. สืบค้นจาก: https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/997820200403093559.pdf
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. ระบบบริการข้อมูลสารสนเทศ การให้บริการผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ (NAP WEB REPORT) [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ; 2563 [สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2566]. สืบค้นจาก: http://napdl.nhso.go.th/NAPWebReport/home.jsp
ประพันธ์ ภานุภาค. ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่ [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สภากาชาดไทย; 2561 [สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2566]. สืบค้นจาก: https://redcross.or.th/news/information/4665
จิตติมา โภคาประกรณ์. ระบบรับยาต้านไวรัสเอดส์อย่างต่อเนื่อง โดยเภสัชกรในผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ณ โรงพยาบาลเสนา [วิทยานิพนธ์เภสัชศาสตรมหาบัณฑิต]. กรุงเทพมหานคร: คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2547.
ศุภาภิลัย วิโรจน์จริยากร. ผลของการให้บริการของคลินิกรับยาต่อเนื่องโดยเภสัชกรในผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ณ โรงพยาบาลร่อนพิบูลย์ [วิทยานิพนธ์เภสัชศาสตรมหาบัณฑิต]. สงขลา: คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2556.
Lok JJ, Bosch RJ, Benson CA, Collier AC, Robbins GK, Shafer RW, et al. Long-term increase in CD4+ T-cell counts during combination antiretroviral therapy for HIV-1 infection. AIDS. 2010;24(12):1867-76. doi: 10.1097/QAD.0b013e32833adbcf.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2023 Health Administration Division, Office of the Permanent Secretary, Ministry of Public Health and The Society of Hospital Pharmacist, Ministry of Public Health
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อความภายในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารเภสัชกรรมคลินิกทั้งหมด รวมถึงรูปภาพประกอบ ตาราง เป็นลิขสิทธิ์ของกองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ ชมรมเภสัชกรโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสารเภสัชกรรมคลินิกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ ชมรมเภสัชกรโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้สามารถนำไฟล์บทความไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ต่อได้ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอน (Creative Commons License: CC) โดย ต้องแสดงที่มาจากวารสาร – ไม่ใช้เพื่อการค้า – ห้ามแก้ไขดัดแปลง, Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับกองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ ชมรมเภสัชกรโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรในกองฯ หรือ ชมรมฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการ