ผลการใช้งานโปรแกรม HRMS ร่วมกับการประเมินคะแนนความเสี่ยงด้วยระบบ Risk Matrix โรงพยาบาลวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้แต่ง

  • ช่อบัว ไชยสมพงศ์พันธุ์ โรงพยาบาลวารินชำราบ

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการใช้งานโปรแกรมการบริหารจัดการความเสี่ยง ของสถานพยาบาล (Healthcare Risk Management System: HRMS) ร่วมกับประเมินค่าคะแนน ความเสี่ยงด้วยระบบ Risk Matrix เพื่อจัดลำดับประเด็นที่ต้องจัดการเป็นอันดับแรก เป็นการศึกษา      เชิงพรรณนา (Descriptive study) เก็บข้อมูลจำนวนรายงานความคลาดเคลื่อนทางยา แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ก่อนใช้โปรแกรม HRMS รายงานด้วยแบบบันทึกความคลาดเคลื่อนทางยาและอินทราเน็ตโรงพยาบาล ระหว่าง กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ถึง กันยายน พ.ศ. 2564           (6,834 ครั้ง) และระยะที่ 2 หลังใช้โปรแกรม HRMS รายงานด้วยแบบบันทึกความคลาดเคลื่อนทางยาร่วมกับโปรแกรมออนไลน์ HRMS ระหว่าง ตุลาคม พ.ศ. 2564 ถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 (7,990 ครั้ง) วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติพรรณนา แจกแจง ร้อยละ สถิติเชิงอนุมานใช้ Paired t-test ผลการศึกษาพบว่า ก่อนและหลังการใช้โปรแกรม HRMS พบการรายงานความคลาดเคลื่อนทางยามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.001) มีการรายงานใน ระยะที่ 2 เพิ่มขึ้นจาก ระยะที่ 1 จำนวน 1,156 ครั้ง (ร้อยละ 16.91) การรายงานที่พบมากที่สุดคือรายงานสั่งใช้ยาคลาดเคลื่อนเพิ่มขึ้น 1,457 ครั้ง (ร้อยละ 21.32) จ่ายยาคลาดเคลื่อนเพิ่มขึ้น 28 ครั้ง (ร้อยละ 0.41) บริหารยาคลาดเคลื่อนเพิ่มขึ้น 23 ครั้ง (ร้อยละ 0.34) พบรายงานความรุนแรงความเสี่ยงระดับต่ำ (A-B) เพิ่มขึ้น 1,127 ครั้ง (ร้อยละ 16.49) ระดับกลาง (C-D) เพิ่มขึ้น 26 ครั้ง (ร้อยละ 0.38)  และระดับสูง (E-F) เพิ่มขึ้น 3 ครั้ง (ร้อยละ 0.04) แสดงให้เห็นว่าการใช้โปรแกรม HRMS สามารถเพิ่มการรายงานได้ และมีการประเมินคะแนนความเสี่ยงด้วยระบบ Risk Matrix สำหรับความคลาดเคลื่อนในการสั่งยาซึ่งมีรายงานมากที่สุด พบประเด็น การสั่งใช้ยาขนาดสูงหรือต่ำเกินไป ผิดความแรง ผิดจำนวน ผิดวิธีใช้ และไม่ได้สั่งใช้ยาเดิมผู้ป่วย 10 คะแนนเท่ากัน จัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง (High risk level)  จึงต้องมีการจัดการประเด็นเหล่านี้เป็นลำดับแรก และเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาระบบความปลอดภัยด้านยา

คำสำคัญ: รายงานความคลาดเคลื่อนทางยา, รายงานความเสี่ยง, โปรแกรม HRMS, Risk matrix

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-04-30

วิธีการอ้างอิง