ผลการติดตามการเจริญเติบโตทางร่างกาย และพัฒนาการ ของทารกคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ที่ได้รับการดูแลตามรูปแบบการส่งเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโต (Developmental Care Model) และปัจจัยเสี่ยงต่อพัฒนาการล่าช้า ในห้องของหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดระยะวิกฤติโรงพยาบาล

ผู้แต่ง

  • การะเกด พันธุรัตน์ หอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลแพร่
  • สัญญาลักษณ์ สุทธนะ หอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลแพร่
  • ฉวีวรรณ วิหก หอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลแพร่
  • อำภา วังคำ หอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลแพร่

บทคัดย่อ

บทนำ: ทารกคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ที่อยู่ในภาวะวิกฤตนอนโรงพยาบาลนาน ถูกแยกจากบิดามารดา ถูกรบกวนด้วยความเจ็บปวดจากหัตถการและการรักษา จากแสงและเสียงรบกวน ส่งผลต่อสมองและระบบประสาทสัมผัส การมองเห็นและการได้ยิน ทำให้ทารกขาดโอกาสที่จะได้รับการส่งเสริมพัฒนาการตามที่ควรจะเป็น จากผลการศึกษาของอัลทิเมียร์และฟิลลิปส์ ที่ใช้การดูแลตามรูปแบบการส่งเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโต (Developmental Care Model) ช่วยส่งเสริมให้ทารกคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ มีพัฒนาการและการเจริญเติบโตสมวัย

วัตถุประสงค์: เพื่อติดตามการเจริญเติบโตทางร่างกายและพัฒนาการของทารกคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ที่ได้รับการดูแลตามรูปแบบการส่งเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโต (Developmental Care Model) และศึกษาปัจจัยเสี่ยงต่อพัฒนาการล่าช้า ของทารกคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ในหอผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลแพร่

วิธีการศึกษา: ศึกษาทารกเกิดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ที่เคยได้รับการรักษาในห้องผู้ป่วยหนักกุมารเวชกรรมโรงพยาบาลแพร่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 ถึง 30 กันยายน 2557 จำนวน 340 ราย โดยติดตามการเจริญเติบโตทางร่างกาย พัฒนาการ การมองเห็นและการได้ยิน โดยในส่วนของการเจริญเติบโต ใช้เกณฑ์น้ำหนักตามเกณฑ์อายุ ส่วนสูงตามเกณฑ์อายุและน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูงจากสำนักโภชนาการ กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนของพัฒนาการประเมินพัฒนาการทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการเคลื่อนไหว ด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา ด้านการเข้าใจภาษา ด้านการใช้ภาษา และด้านการช่วยเหลือตนเองและสังคม โดยใช้แบบประเมินและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก Developmental Assessment For Intervention Manual (DAIM) หรือ Development Surveillance and Promotion Manual (DSPM) ของกระทรวงสาธารณสุข เก็บข้อมูลที่คลินิกติดตามสุขภาพทารกกลุ่มเสี่ยง (High Risk Clinic : HRC) จำนวน 293 ราย และโดยการติดตามที่บ้านหรือในชุมชน 47 ราย ระหว่างเดือน เมษายน ถึง พฤศจิกายน 2559 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ordinal logistic regression

ผลการศึกษา: การติดตามการเจริญเติบโตทางร่างกายและพัฒนาการของทารกคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ สูงกว่าเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ คือ การเจริญเติบโตปกติ โดย น้ำหนักเทียบอายุอยู่ในเกณฑ์ปกติ ร้อยละ 87.4 ส่วนสูงเทียบอายุอยู่ในเกณฑ์ปกติ ร้อยละ 89.4 ภาวะโภชนาการปกติ โดยน้ำหนักเทียบส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ปกติ ร้อยละ 93.2 การมองเห็นปกติ ร้อยละ 97.9 และการได้ยินปกติ ร้อยละ 98.8 สำหรับพัฒนาการในภาพรวมปกติ ร้อยละ 89.4 ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ทารกคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ มีพัฒนาการล่าช้า ได้แก่ทารกคลอดก่อนกำหนดที่คลอดอายุครรภ์ < 32 สัปดาห์ น้ำหนักตัวแรกคลอด < 1,500 กรัม มีภาวะพร่องออกซิเจน ได้รับการรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจและได้รับออกซิเจนในระยะแรกคลอด

สรุป: การดูแลตามรูปแบบการส่งเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโต (Developmental Care Model)ส่งเสริมให้ทารกคลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ มีพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่สมวัย สูงกว่าการดูแลตามรูปแบบเดิมของปีงบประมาณ 2552 และสูงกว่าเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ จึงควรนำรูปแบบมาใช้ในการดูแลทารกแรกเกิดทุกราย และควรให้ข้อมูลแก่ญาติบิดามารดาถึงผลต่อพัฒนาการ เพื่อการเฝ้าระวังพัฒนาการอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มทารก คลอดก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ที่มีภาวะพร่องออกซิเจน น้ำหนักตัวน้อย ได้รับการรักษาด้วยออกซิเจนหรือ ใช้เครื่องช่วยหายใจ

คำสำคัญ: ทารกเกิดก่อนกำหนด, การเจริญเติบโต, พัฒนาการ, รูปแบบการดูแลที่ส่งเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโต

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-08-19

วิธีการอ้างอิง