ประสิทธิผลของโปรแกรมการวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้าน ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ คลินิกผู้ป่วยนอกปฐมภูมิ โรงพยาบาลแพร่

ผู้แต่ง

  • ขณิตา กรณ์ธารกุล โรงพยาบาลแพร่
  • เกตแก้ว นิธิกรโกศล โรงพยาบาลแพร่

บทคัดย่อ

บทนำ: ความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุ ของการเสียชีวิต การวัดความดันโลหิตที่บ้านช่วยให้ผู้ป่วยทราบการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิต ช่วยกระตุ้นเตือนการดูแลตนเอง และสามารถควบคุมค่าความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายต่อชีวิต
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้านในผู้ป่วยโรคความดันโลหิต สูงที่ควบคุมไม่ได้
วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาแบบกึ่งทดลอง ชนิดกลุ่มเดียววัดก่อนและหลังการทดลอง ศึกษาในผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูง ที่มารับบริการที่คลินิกผู้ป่วยปฐมภูมิ โรงพยาบาลแพร่ ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ ถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2567 คำนวณขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้โปรแกรม G*Power 3.1.4 ขนาดอิทธิพลเท่ากับ 0.50 ได้กลุ่มตัวอย่าง 30 คน เครื่องมือได้แก่โปรแกรมการวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้าน แบบสอบถาม และแบบบันทึกความดันโลหิต วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาวิเคราะห์หาความแตกต่าง ด้วยสถิติ paired t-test
ผลการศึกษา: ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนการรับรู้และพฤติกรรมการดูแลตนเองภายหลังการเข้า ร่วมโปรแกรมฯ สูงกว่าก่อนการเข้าร่วมโปรแกรมฯ (ค่าเฉลี่ย 14.33±4.23, 17.93±2.88 และ 27.4±3.79, 31.66±6.37) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ <0.001 ผลการเปรียบเทียบ SBP, DBP ของผู้ป่วย ก่อนและหลังการได้รับโปรแกรมฯ(ค่าเฉลี่ย 149.97± 5.97/93.57± 10.77 และ 126.57± 6.79/78.17±10.08) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ <0.001
สรุป: โปรแกรมการวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้าน ช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมระดับความดันโลหิตได้ ดังนั้นควรนำโปรแกรมนี้ไปใช้กับผู้ป่วยที่ได้รับยาลดความดันโลหิต
คำสำคัญ: การวัดความดันโลหิตด้วยตนเอง, การวัดความดันโลหิตที่บ้าน, โรคความดันโลหิต, ความดันโลหิตสูงควบคุมไม่ได้

เอกสารอ้างอิง

World Health Organization. Hypertension Geneva: WHO; 2023. Available from: https://www.who.int/news-room/facts heets/detail/hypertension

คลังข้อมูลสุขภาพ. ร้อยละผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตได้ดี (Health Data Center-HDC 2565) [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 30 กันยายน 2566]. เข้าถึงได้จาก: HDC - Report(moph.go.th)

กรมควบคุมโรค. รายงานสถานการณ์โรค NCDs เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง พ.ศ.2562. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2563.

กิตติพร เนาว์สุวรรณ, ประไพพิศ สิงหเสม, เยาวลักษณ์ ยิ้มเยือน. ความสัมพันธ์และอำนาจในการทำนายของแรงสนับสนุนทางสังคมที่มีต่อการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง. วารสารวิทยลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์ 2559; 8(1):1-13.

ปุณิกา สุ่มทอง, บุญเยี่ยม สุทธิพงศ์เกียรติ, ปรัชพร กลีบประทุม, วาศิณี อาจภักดี. ผลของโปรแกรมการวัดความดันโลหิตด้วยตนเองที่บ้านโดยประยุกต์ทฤษฏีขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและแรงสนับสนุนทางสังคม ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลอ่างทอง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี 2562;2(1):1-14.

วิริยา สุขวงศ์, ธนพร วรรณกูล, ชลิดา โสภิตภักดีพงษ์. ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขศึกษาโดย ประยุกต์ใช้ทฤษฎีการดูแลตนเองในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง. วารสารพยาบาลสาธารณสุข 2555; 26(3):106-18.

Bloom BS. Handbook on formative and summative evaluation of student learning. New York: McGraw–Hill; 1971.

ยุภาพร นาคกลิ้ง, ปราณี ทัดศรี. ศึกษาผลของโปรแกรมการสร้างเสริมการรับรู้ความสามารถตนเองต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง ที่ควบคุมระดับความดันโลหิตไม่ได้.สถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2560;6(1):27-35.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-01-31

วิธีการอ้างอิง