สมรรถนะการจัดทำแผนกลยุทธ์ของนักวิเคราะห์นโยบายและแผน สังกัดกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

บทคัดย่อ

องค์กรภาครัฐถูกคาดหวังให้มีศักยภาพสูงในการปรับตัวและขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้บรรลุตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561–2580) ซึ่งเป็นกรอบทิศทางหลักในการพัฒนาประเทศ การวางแผนกลยุทธ์ในหน่วยงานรัฐมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับทุนมนุษย์ โดยเฉพาะ สมรรถนะของนักวิเคราะห์นโยบายและแผน ซึ่งผู้รับผิดชอบหลักในกระบวนการวางแผนกลยุทธ์ให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ขององค์กร การวิจัยนี้มุ่งศึกษาสมรรถนะในการจัดทำแผนกลยุทธ์ และปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถนะของนักวิเคราะห์นโยบายและแผน กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรที่ปฏิบัติงานในสังกัดกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จำนวน 282 คน จำแนกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนักวิเคราะห์นโยบายและแผน จำนวน 66 คน กลุ่มเพื่อนร่วมงาน จำนวน 129 คน และกลุ่มผู้บังคับบัญชา จำนวน 87 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล คือ แบบประเมินสมรรถนะของนักวิเคราะห์นโยบายและแผน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ ด้วยสถิติ t-test (One sample t-test) สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ แบบเพียร์สัน และสถิติการวิเคราะห์การถดถอยพหุคุณ (Multiple Regression Analysis) ด้วยวิธีการแบบ Stepwise Regression กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า สมรรถนะการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ของนักวิเคราะห์นโยบายและแผนโดยรวม อยู่ในระดับดี ร้อยละ 78.7 (Mean = 4.18, SD = 0.81, 95% CI = 4.01 to 4.28) ปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถนะการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ได้แก่ ปัจจัยด้านสิ่งสนับสนุนและแรงจูงใจ ปัจจัยด้านทัศนคติต่อค่านิยมขององค์กร และปัจจัยด้านความรู้ความเข้าใจในองค์กร สามารถอธิบายการทำนายกับสมรรถนะการจัดทำแผนกลยุทธ์ได้ร้อยละ 71.3 (R² = 0.713) ข้อมูลเชิงประจักษ์นี้ชี้ให้เห็นว่าการพัฒนาศักยภาพของนักวิเคราะห์นโยบายและแผน ควรเน้นการเสริมสร้างแรงจูงใจ การปลูกฝังค่านิยมขององค์กร และการเพิ่มพูนความรู้ด้านองค์กรควบคู่กัน เพื่อผลักดันให้การวางแผนกลยุทธ์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น