Sleep Pattern among Students in Khon Kaen University

Abstract

รูปแบบการนอนของนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น

นิสาชล บุตรสาทร¹, วริสรา ลุวีระ^2*, พรรษ โนนจุ้ย², พหุรัตน์ ดีนอก¹, วิลาวัณย์ อุ่นเรือน¹

¹หน่วยบริการปฐมภูมิ123 แผนกการพยาบาลเวชปฏิบัติครอบครัว งานบริการพยาบาล โรงพยาบาลศรีนครินทร์
²ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ทำให้มีลักษณะการนอนที่เปลี่ยนไป จนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้ด้านปัญหาและรูปแบบการนอนของนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่มารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิ 123 มหาวิทยาลัยขอนแก่น

วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา ประชากรศึกษาเป็นนักศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี ที่มารับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิ 123 มหาวิทยาลัยขอนแก่น คำนวณขนาดตัวอย่างได้ 120 คน ใช้การสุ่มตัวอย่างตามกรอบเวลา เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามชนิดตอบเอง ประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไป ข้อมูลด้านการนอนในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และข้อมูลด้านความต้องการเพิ่มเติมของนักศึกษาที่เกี่ยวกับปัญหาการนอน วิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและเชิงอนุมาน

ผลการศึกษา: นักศึกษากลุ่มตัวอย่างจำนวน 120 ราย ส่วนใหญ่คิดว่าตนเองมีปัญหาในการนอน คิดเป็นร้อยละ 47.5 (95%CI: 38.38, 56.78) ส่วนใหญ่เริ่มต้นนอนในช่วงเวลา 24.00 – 2.00 น. ตื่นนอนในช่วงเวลา 6.00 – 8.00 น. จำนวนชั่วโมงที่นอนมากกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน ในนักศึกษาที่คิดว่าตนเองมีปัญหาในการนอน พบว่าร้อยละ 52.6 ใช้ระยะเวลามากกว่า 30 นาทีตั้งแต่เริ่มนอนจนกว่าจะนอนหลับ ร้อยละ 29.8 เข้านอนหลัง 2.00 น. และร้อยละ 33.3 นอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อวัน

สรุป: นักศึกษาส่วนใหญ่คิดว่าตนเองมีปัญหาในการนอน นักศึกษาในกลุ่มที่คิดว่าตนเองมีปัญหาในการนอน มักจะมีปัญหาในช่วงเริ่มต้นของการนอน และจำนวนชั่วโมงที่นอนในแต่ละวันน้อยกว่า 5 ชั่วโมง  ดังนั้นในการดูแลประชากรที่เป็นนักศึกษา ควรมีการคัดกรองและให้ความรู้กับนักศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการนอน

Background and Objective: Undergraduate students have many changes in their life, which may affect the sleep patterns causing several health problems. This study aims to study the perception of problems and the sleep patterns of undergraduate students who attended Primary Care Unit 123 Khon Kaen University.

Methods:  This study was a descriptive study. Population were the undergraduate students attending at Primary Care Unit 123 Khon Kaen University. The calculated sample size was 120. The samples were recruited by time frame allocation. The self-administered questionnaire information including demographic data, sleep information during the past 1 year and additional needs information about sleep problems. The results were analyzed by descriptive statistics and inferential statistics.

Results: Among 120 college students, most of them (47.5%, 95%CI: 38.38 - 56.78) thought that they had problems in sleeping. Most of them start sleeping at 0.00 - 2.00 a.m., awaking during 6.00 - 8.00 a.m., the number of hours of sleeping was more than 5 hours per day. In college students who thought that they had problems in sleeping, 52.6 percent spent more than 30 minutes for falling asleep, 29.8 percent into bed after 2:00 a.m. and 33.3 percent sleeping less than 5 hours per day.

Conclusion: Most of college students thought that they had trouble in sleeping. The college students who thought that they had problems in sleeping often had problems at the beginning of sleep and the number of sleeping hours in each day less than 5 hours. Therefore, caring of this such population should include screening and education of sleeping problems.