สถานการณ์แปรงสีฟันในตลาดประเทศไทย (พ.ศ.2557-2568)
คำสำคัญ:
แปรงสีฟัน, การสำรวจ, การคุ้มครองผู้บริโภคบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบคุณลักษณะของแปรงสีฟันจากการสำรวจในปี 2557 และ 2562 และหาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับคุณภาพของแปรงสีฟันในท้องตลาดประเทศไทยในปี 2562 รวมถึงศึกษาการคงจำหน่ายในตลาดระหว่างปี 2562 และปี 2568 ใช้วิธีการศึกษาวิเคราะห์ภาคตัดขวาง โดยส่วนที่ 1 ใช้ข้อมูลคุณลักษณะของแปรงสีฟัน ซึ่งเป็นข้อมูลทุติยภูมิจากการเฝ้าระวังคุณภาพแปรงสีฟันที่สำรวจในปี 2557 และ 2562 จากฐานข้อมูลสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย และส่วนที่ 2 เป็นข้อมูลการสัมภาษณ์ผู้จำหน่ายแปรงสีฟันจากร้านค้า 10 แห่ง และข้อมูลแปรงสีฟันที่จำหน่ายในปี 2568 ในร้านหรือขายออนไลน์ร่วมกับข้อมูลที่แสดงบนเว็บไซต์จากแพลทฟอร์มตลาดสินค้าออนไลน์ กลุ่ม e-Marketplace ในช่วงเวลาที่ทำการศึกษาปี 2568 ผลการศึกษาพบว่าจำนวนรุ่นของแปรงสีฟันที่ขายเพิ่มมากขึ้นจาก 270 และ 293 รุ่นในปี 2557 และ 2562 เป็น 557 รุ่นในปี 2568 สัดส่วนของแปรงสีฟันที่ไม่ผ่านเกณฑ์คุณภาพในปี 2562 สูงกว่าปี 2557 ปัจจัย “การนำเข้าจากต่างประเทศ” ร่วมกับ “ราคาไม่เกิน 20 บาท” ส่งผลทางลบต่อคุณภาพของแปรงสีฟันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แปรงสีฟันที่มีทั้งสองปัจจัยดังกล่าวมีอัตราเสี่ยงที่คุณภาพจะไม่ผ่านเกณฑ์เป็น 8.7 เท่าของแปรงสีฟันที่มีราคาสูงกว่า 20 บาทและผลิตในประเทศ คุณภาพที่ไม่ผ่านเกณฑ์ส่วนใหญ่มาจากลักษณะปลายขนแปรงบกพร่องซึ่งพบได้จากปลายขนเรียวแหลมมากกว่าปลายมนกลม รองลงมาคือความทนต่อแรงดึงกระจุกขนแปรงไม่ผ่านเกณฑ์ แปรงสีฟันที่มีชื่อรุ่นที่ยังคงจำหน่ายในตลาดถึงปี 2568 มีโอกาสผ่านเกณฑ์คุณภาพมากกว่าแปรงสีฟันที่ตกรุ่นไปแล้วถึง 2.6 เท่า ร้านค้าใช้เกณฑ์ในการคัดเลือกสินค้ามาจำหน่ายจากความต้องการของลูกค้าโดยพิจารณาจากยอดขายในอดีตเป็นอันดับแรก ประกอบกับความถี่ของการโฆษณาในสื่อ/การส่งเสริมการขาย และยี่ห้อ/บริษัทผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ ดังนั้น ควรมีการสื่อสารผลการตรวจสอบคุณภาพแปรงสีฟันและวิธีการตรวจสอบความเรียบร้อยของขนแปรงให้ผู้บริโภค ทั้งประชาชนและหน่วยงานที่มีโครงการจัดซื้อแปรงสีฟันได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อสินค้า
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 กรมอนามัย

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.