การสร้าง "ถังดูดยุง" เพื่อกำจัดยุงตัวเต็มวัย
คำสำคัญ:
ถังดูดยุง, อัตราการเกาะกัดของยุง, คนเป็นเหยื่อล่อบทคัดย่อ
ในแต่ละปี ไข้มาลาเรีย ไข้สมองอักเสบ ไข้เลือดออก มีอัตราป่วยและอัตราป่วยตายเกิดขึ้นทุกปี จากข้อมูลรง.506 และรายงานสอบสวนโรคของ สอ.สวนเขื่อนย้อนหลัง 5 ปี (พ.ศ. 2548 - พ.ศ. 2552) พบว่าทุกปีมีผู้ป่วยไข้เลือดออกในพื้นที่เกินเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงกำหนด 50 ต่อแสนประชากร และจากการสุ่มตรวจอัตราการเกาะกัดของยุงตัวเมียต่อคนต่อชั่วโมง โดยใช้คนเป็นเหยื่อล่อ Biting Rate Index (BRI) พบว่า มีอัตรา 8-12 ตัวต่อคนต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นอัตราที่เสี่ยงต่อการระบาด ในพ.ศ. 2553 ผู้วิจัยได้คิดค้นสร้างนวัตกรรม "ถังดูดยุง" ขึ้น ซึ่งเป็นการกำจัดยุงตัวเต็มวัยทางด้านกายภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี โดยมีหลักเกณฑ์คือ สร้างง่าย ประหยัด ใช้วัสดุหาง่ายในพื้นที่ และปลอดภัยจากสารเคมี ในการศึกษานี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (quasi-experimental research) ซึ่งเป็นการพัฒนางานประจำให้มีประสิทธิภาพ ศึกษาในหมู่บ้านควบคุมและหมู่บ้านทดลองกลุ่มละ 1 หมู่บ้าน มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผล ประสิทธิภาพถังดูดยุงในการกำจัดยุง ตัวเต็มวัยและนำผลการศึกษาวิจัยดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในชุมชนโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการผลิตถัง ดูดยุงซึ่งจะเป็นการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อที่ยั่งยืน
จากการศึกษาพัฒนาพบว่าถังสีดำมีส่วนในการล่อยุงมาหามากกว่าสีอื่น และขนาดถังดูดยุงขนาดพัดลม 11 นิ้ว จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 91.98 ของยุงที่ดูดได้ การทดสอบประสิทธิภาพของถังดูดยุงขนาด 11 นิ้ว พบว่ายุงเป็นแมลงที่ดูดได้มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 54.50 ของจำนวนแมลงที่ดูดได้ทั้งหมดการทดสอบประสิทธิภาพถังดูดยุงผู้วิจัยได้สำรวจค่า BRI ก่อนเปิดเครื่องโดยได้ค่าเฉลี่ย 25.33 ตัวต่อคนต่อชั่วโมงหลังจากนั้นได้เปิดเครื่องดูดยุง เป็นเวลา 1 ชั่วโมงในหมู่บ้าน พบว่า อัตราชุกของยุงลดลง โดยสำรวจค่า BRI หลังเปิดเครื่องโดยได้ค่าเฉลี่ย 3.34 ตัวต่อคนต่อชั่วโมง อัตราค่าที่ถังดูดยุงสามารถดูดยุงได้ คิดเป็นร้อยละ 91.47เมื่อเปรียบเทียบผลจากการศึกษาวิจัยในหมู่บ้านพบว่าหมู่บ้านควบคุม มีค่า BRI ที่ไม่แตกต่างกันทั้งก่อนและขณะวิจัย แต่หมู่บ้านที่ทดลอง ใช้ถังดูดยุงในพื้นที่โดยให้ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน คักทุกวันในเขตรับผิดชอบของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน คนละ 1 เครื่อง พบว่าอัตราค่า BRI ลดลงอย่าง ต่อเนื่อง จาก 12 ตัวต่อคนต่อชั่วโมง เหลือค่าเฉลี่ยอัตราค่า BRI เป็น 5.33 ตัวต่อคนต่อชั่วโมง ถังดูดยุงจึงเป็นเครื่องมือการกำจัดยุงทางด้านกายภาพที่มีประสิทธิภาพซึ่งนวัตกรรม "ถังดูดยุง" นี้ได้ยื่นจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญากระทรวงพาณิชย์ในพ.ศ. 2553
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

