การพัฒนาแนวทางการทำกายภาพบำบัดในผู้ป่วยปวดหลังจากภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม

ผู้แต่ง

  • จุฑามาศ ทองบุญ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
  • ศศิธร เทพษร โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
  • กฤษฎา ยอดเงิน โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
  • คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • กิตติพร เนาว์สุวรรณ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการณ์ สร้างและพัฒนา และประเมินผลลัพธ์แนวทางการทำกายภาพบำบัด ในผู้ป่ วยปวดหลังจากภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ดำเนินการ 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพการณ์ผู้ป่ วยปวดหลังจากภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม ขั้นตอนที่ 2 ศึกษาแนวทางการทำ กายภาพบำบัดในผู้ป่ วยปวดหลังจากภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม โดยนำข้อมูลในขั้นตอนที 1 และการทบทวนวรรณกรรม ่ มายกร่างเป็นแนวทาง ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 3 คน ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาประสิทธิผลของแนวทางที่พัฒนา ขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ paired sample t-test ผลการวิจัยพบว่าปัญหาของผู้มารับบริการกายภาพบำบัดใน ผู้ป่ วยปวดหลังจากภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม ได้แก่ ขาดความตระหนักในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ท่าทางทำ กิจวัตรประจำวันทำให้ต้องเข้ารับการรักษาเป็นเวลานาน การออกกำลังกายไม่ถูกต้อง และผู้ป่ วยต้องการแนวทางการ ออกกำลังกายที่สามารถทำได้เอง และการปฏิบัติตัวถูกต้องหมาะสมกับตนเอง โดยแนวทางการทำกายภาพบำบัดใน ผู้ป่ วยปวดหลังจากภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม คือ ค้นหาและวิเคราะห์สาเหตุของอาการปวดหลังโดยใช้แบบบันทึก กิจวัตรประจำวัน การซักประวัติ ตรวจร่างกาย ประเมินความเจ็บปวดด้วยแบบประเมินออสเวสทรี ให้ชมวีดีทัศน์การ ดูแลตนเองและการออกกำลังกายทีถูกต้อง การเสริมพลังอำนาจ ร่วมกับการรักษาด้วยเครื่องมือและวิธีการทางกายภาพบำบัด ทั้งนี้หลังจากการใช้แนวทางที่พัฒนาขึ้น พบว่า คะแนนความเจ็บปวด และคะแนนการประเมินอาการในผู้ป่ วย ปวดหลัง ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 ดังนั้น การดูแลผู้ป่ วยใช้แนวทางที่พัฒนาขึ้นร่วมกับการรักษา ตามมาตรฐานของสภากายภาพบำบัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่ วยปวดหลังจากภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

ชลเวช ชวศิริ, ธิราวรรณ เชื้อตาเล็ง, พัชรี บุตรแสนโคตร. ปัจจัยทำนายคุณภาพชีวิตของผู้ป่ วยกระดูกสันหลังเสื่อม. วารสารพยาบาล 2560;32(3):78-90.

Futato R. Epidemiological features of chronic low-back pain. Lancet 1999;354(9178):581–5.

Gregory S. Surgical treatment of cervical spondylotic myelopathy with anterior compression. Journal of neurosurgery.Spine 2008;9(2):152-7.

Rauschning W. Imaging anatomy of the lumbar spine. In: Weinstein JN, Wiesel SW, Editors. The lumbar spine. Philadelphia: WB Saunders; 1990. p. 23-48.

Middleton K, Fish DE. Lumbar spondylosis: clinical presentation and treatment approaches. Curr Rev Musculoskelet Med. 2009; 2(2): 94–104.

Boos N, Weissbach S, Rohrbach H, Weiler C, Spratt KF, Nerlich AG. Classification of age-related changes in lumbar intervertebral discs: 2002 Volvo Award in basic science. Spine 2002;27(23):2631-44.

Macfarlane GJ, Thomas E, Papageorgiou AC, Croft PR, Jayson MI, Silman AJ. Employment and physical workactivities as predictors of future low back pain. Spine 1997;22(10):1143-9.

Norton G, McDonough CM, Cabral H, Shwartz M, Burgess JF. Cost-utility of cognitive behavioral therapy for low back pain from the commercial payer perspective. Spine (Phila Pa 1976) 2015;40(10):725-33.

Rivero-Arias O, Campbell H, Gray A, Fairbank J, Frost H, Wilson-MacDonald J. Surgical stabilisation of the spine compared with a programme of intensive rehabilitation for the management of patients with chronic low back pain: Cost utility analysis based on a randomised con-trolled trial. BMJ 2005;330(7502):1239-43.

Gibson CH. The process of empowerment in mothers of chronically ill children. Journal of Advanced nursing 1995;21(6):1201–10.

Breeding RR. Empowerment as a function of contextual self-understanding: The effect of work interest profiling on career decision self-efficacy and work locus of control. Rehabilitation Counseling Bulletin 2008;51:96- 106.

Bandura A. Self-efficacy: the exercise of control. New York: WH Freeman/Times Books/Henry Holt & Co; 1997.

Crabtree BF, Miller WL. Doing qualitative research. London:SAGE Publications 1992.

Faul F, Erdfelder E, Lang A-G, Buchner A. G*Power 3: A flexible statistical power analysis program for the so-cial, behavioral, and biomedical sciences. Behavior Research Methods 2007;39(2):175-91.

สุรชัย แซ่จึง, ทกมล หรรษาวงศ์, กิตติ จิรรัตนโพธิ์ ชัย. ความ น่าเชื่อของแบบสอบถามออสเวสทรีฉบับภาษาไทย ในการ ประเมินอาการของผู้ป่ วยปวดหลัง. ศรีนครินทร์เวชสาร 2545;17(4):247-53.

Fairbank JC, Couper J, Davies JB, O’Brien JP. The Oswestry low back pain disability questionnaire. Physiotherapy 1980;66:271-3.

Shapiro SS, Wilk MB. An analysis of variance test for normality (complete samples). Biometrika 1965;52(3– 4):591–611.

กาญจนา นิ่มตรง, นงนุช โอบะ, อาทิตย์ เหล่าเรืองธนา. ผลของโปรแกรมการให้ความรู้และการสนับสนุนต่อพฤติกรรม การดูแลตนเองและอาการปวดของผู้ป่วยปวดหลังส่วนล่าง เรื้อรัง. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ 2555;6(2):99- 109.

พัชรินทร์ น้อยสุวรรณ, วีระพร ศุทธากรณ์, วันเพ็ญ ทรงคำ. ผลของโรงเรียนปวดหลังต่ออาการปวดหลังส่วนล่างและ ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ของเกษตรกรชาวนา. พยาบาลสาร 2562;46(3),142-56.

กุลวรางค์ ว่องวิไลรัตน์, พรทิพย์ คำพอ. การพัฒนาศักยภาพ ในการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ทีมีอาการปวดหลัง. วารสารวิจัย มข. (บศ.) 2555;12(2):19-29.

อรพันธ์ อันติมานนท์, โกวิทย์ บุญมีพงศ์, ธิติรัตน์ สายแปง, กมลชนก สุขอนันต์, อารีพิศ พรหมรัตน์, พีรวิชญ์ จุลเรือง, และคณะ. ภาระโรคปวดหลังในผู้ประกอบอาชีพ. วารสารควบคุมโรค 2559; 42(2):119-29.

กนกอร พิเดช, จิราพร เกศพิชญวัฒนา, ปชาณัฏฐ์ นันไทยทวีกุล. ผลของโปรแกรมส่งเสริมการจัดการตนเองต่อความ สามารถในการทำกิจกรรมของผู้ป่วยหลังผ่าตัดกระดูกสันหลังระดับบั้นเอวในระยะฟื้นฟูสภาพ. วารสารแพทย์นาวี 2561;45(2):267-88.

เบญจมาศ พุทธิมา. การพัฒนาสมรรถนะการสร้างเครื่องมือ วัดและประเมินผลการศึกษาของครูผู้สอนโดยใช้เทคนิคการ เสริมพลังอำนาจ. วารสารวิชาการเครือข่ายบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ 2561;8(14):57-72.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-12-18

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้