ความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 6 ปีการศึกษา 2551
คำสำคัญ:
งานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค, ความครอบคลุมการได้รับวัคซีนบทคัดย่อ
ประเทศไทยกำหนดให้วัคซีนรวมหัด คางทูม หัดเยอรมัน (MMR) แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ วัคซีนรวมคอตีบ บาดทะยัก (dT) ในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แต่ยังพบการระบาดของโรคหัดและคางทูมในนักเรียนที่ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวแล้วในหลายพื้นที่ จึงได้สำรวจความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนในโรงเรียน และหาสาเหตุของการไม่ได้รับวัคซีน วิธีการศึกษา cross - sectional survey สุ่ม จังหวัดแบบ simple random 12 จังหวัด 30 โรงเรียน/จังหวัด เก็บข้อมูลเดือน มกราคม - มีนาคม 2551
การศึกษาพบว่าความครอบคลุมของวัคซีน MMR ในชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 ร้อยละ 91.2 วัคซีน dT ใน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 94.1 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ร้อยละ 95 สาเหตุของการไม่ได้รับ วัคซีนเกิดจากเจ้าหน้าที่ไม่ให้บริการฉีดวัคซีนในโรงเรียนมากที่สุดทั้งในชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 และ ประถม ศึกษาปีที่ 6 คือ ประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นสาเหตุร้อยละ 66.1 (โรงเรียน 21 แห่ง) และ ประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นสาเหตุร้อยละ 41 (โรงเรียน 13 แห่ง) รองลงมาคือเด็กไม่มาโรงเรียนในวันที่เจ้าหน้าที่ไปให้บริการ ประถม ศึกษาปีที่ 1 เป็นสาเหตุร้อยละ 15.5 และ ประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 31.5
จากการสำรวจครั้งนี้พบว่าการพลาดโอกาสการได้รับวัคซีนในนักเรียน เกิดจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติเป็น ปัจจัยสำคัญทำให้นักเรียนรายนั้นสูญเสียโอกาสในการได้รับวัคซีนไปจะทำให้นักเรียนไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคและเป็นเหตุให้มีการระบาดของโรคเกิดขึ้น สาเหตุกลุ่มนี้แก้ไขได้โดยทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วนเนื่องจากอาจจะยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน และในแต่ละระดับควรเพิ่มการติดตาม ควบคุม กำกับ จากการเบิกวัคซีน/จำนวนวัคซีนที่จะใช้ ประเมินผลการให้วัคซีนของสถานบริการจากการรายงานผลการปฏิบัติงานเป็นรายโรงเรียน เมื่อตรวจสอบพบว่ายังไม่ได้ให้บริการ ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบติดตามให้วัคซีนแก่เด็กโดยเร็ว
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

