การพัฒนาระบบช่องทางด่วนการดูแลผู้ป่วย โรคหลอดเลือดสมองโดยใช้รูปแบบการจัดการรายกรณี
คำสำคัญ:
โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน, การรักษาด้วยยา rt-PA, การจัดการรายกรณีบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบช่องทางด่วนการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันที่ได้รับการรักษาด้วยยา recombinant tisue plasminogen acivator (rt-PA) โดยใช้รูปแบบการจัดการรายกรณี กลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วย 4 กลุ่ม คือ (1) เวชระเบียนของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันที่ได้รับการรักษาด้วยยา rt-PA จำนวน 12 ฉบับ (2) ผู้ป่วยผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันที่ได้รับการรักษาด้วยยา rt-PA จำนวน 30 คน (3) ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันที่ได้รับการรักษา ด้วยยา rt-PA จำนวน 5 คน และ (4) บุคลากรสหสาขาวิชาชีพ 4 สาขาวิชาชีพ ได้แก่ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักโภชนาการ และนักกายภาพบำบัด จำนวน 10 คน ดำเนินการวิจัยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 ถึง กันยายน 2554การวิจัยแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ (1) ระยะวิเคราะห์สถานการณ์ (2) ระยะดำเนินการ และ (3) ระยะประเมินผลเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) เครื่องมือในการดำเนินการวิจัย คือ แบบประเมินดัชนี บาร์เธล เอ-ดี-แอล แผนการดูแล มาตรฐานการพยาบาล (2) เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ คือ แบบบันทึกข้อมูลของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน ที่ได้รับการรักษาด้วยยา rt-PA 2 แบบประเมินความพึงพอใจในบริการที่ได้รับ แบบประเมินการปฏิบัติตามแผนการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน แบบประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน และ (3) เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ แนวทางการสัมภาษณ์ผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันที่ได้รับการรักษาด้วยยา rt-PA แนวคำถามการสนทนากลุ่มบุคลากรสหสาขาวิชาชีพ เก็บรวบรวมข้อมูล ด้วยวิธีการทบทวนเวชระเบียน การสัมภาษณ์ และการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติเชิงพรรณนา ร้อยละ ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและสร้างข้อสรุป ผลการวิจัย พบว่า ผลลัพธ์ทางคลินิก ได้แก่ค่าเฉลี่ยระยะเวลานับแต่ผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลจนได้รับการรักษาด้วยยา rt-PA ลดลงมากจาก 102 นาทีเป็น 66นาทีมีผู้ป่วยที่ได้รับ rt-PA ทันเวลา 60 นาที จำนวน 16 คนคิดเป็นร้อยละ 53 ค่าเฉลี่ยระยะวันนอนรักษาในโรงพยาบาล ลดลงจาก 7 วัน เป็น 4 วัน ภาวะเลือดออกในสมองเกี่ยวเนื่องจากการได้รับยา rt-PA ลดลงจากร้อยละ 16 เป็น ร้อยละ 6 ผู้ป่วยที่มีภาวะทุพลภาพลดลง/คงที่ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 67 เป็นร้อยละ 93 ความพึงพอใจในการบริการของผู้ป่วย เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 80 เป็นร้อยละ 97 ส่วนผลลัพธ์ทางการพยาบาล ได้แก่ การเกิดปอดอักเสบจากการสำลักอาหารจากร้อยละ 16 ลดลงเป็น 0 การเกิดแผลกดทับ ลดลงจากร้อยละ 8 เป็น 0 การเกิดพลัดตกหกล้มเท่ากับ 0 ปัจจัยความสำเร็จของงานวิจัยการจัดการรายกรณีครั้งนี้ทำให้เกิดระบบการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง มีการประสานงานความร่วมมือของบุคลากรสหสาขาวิชาชีพที่ดูแลผู้ป่วยร่วมกันและประสานงานการดูแลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว มีการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งมีการประเมินและติดตามผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

