ผลของการเข้าร่วมโครงการ Fast Track STEMI ต่อการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันโรงพยาบาลนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์

บทคัดย่อ

โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เป็นโรคร้ายแรงที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยฉุกเฉินและเสียชีวิตได้ทันทีการเข้าถึงบริการและได้รับยา Streptokinase ที่รวดเร็วจะเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตมากขึ้น ในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจำนวน 33,307 คน เป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันชนิดรุนแรง 11,024คน และมีเพียง 4,700 คน ที่ได้รับการตรวจรักษาอย่างถูกต้องคิดเป็นร้อยละ 41 ผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดเสียชีวิตในโรงพยาบาลของไทยร้อยละ 12.6 ในเขตบริการสุขภาพเครือข่ายที่ 9 มีอัตราเสียชีวิตร้อยละ 30.0 ส่วนในโรงพยาบาลนางรองปี 2551-2553 มีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจเสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉินร้อยละ 40.9 โรงพยาบาลนางรองจึงได้เข้าร่วมโครงการ fast track STEMI กับศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องรวดเร็ว ลดอัตราการตาย ลดระยะเวลาการได้รับการรักษาช้า และเพิ่มการเข้าถึงบริการ การได้รับยา streptokinase ที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนางรองและส่งต่อโรงพยาบาลมหาราช-นครราชสีมาหลังยาหมด เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดผล ก่อน-หลัง สิ่งที่ใช้ในการปฏิบัติ คือ รูปแบบกระบวนการดูแลผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในแต่ละครั้ง นำไปปฏิบัติที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่าง 1 พฤษภาคม 2553 ถึง 30 เมษายน 2554 กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันทั้งหมดที่เข้ารักษาที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลนางรอง จำนวน 73 คน ประเมินผลการดำเนินงานทุก 3 เดือน เก็บข้อมูลการดำเนินงาน ด้วยแบบบันทึกการดูแลผู้ป่วย STEMI โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาแบบบันทึกเวชระเบียน โรงพยาบาลนางรอง แบบบันทึกการประชุม และแบบบันทึกเหตุการณ์ที่มีผลต่อการวิจัย วิเคราะห์ข้อมูลและเปรียบเทียบผลการดำเนินงานระหว่างก่อนการพัฒนาในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2553 กับ หลังการพัฒนาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2554 ด้วยสถิติพรรณนา ค่าร้อยละและการวิเคราะห์เนื้อหาพบว่า ระยะเวลา Door to needle time ภายใน 30 นาที ร้อยละ 68.75 ให้ยาเร็วที่สุด ใน 10 นาที มีภาวะแทรกช้อนระหว่างให้ยา ร้อยละ 15.62 ปลอดภัยและรอดชีวิต ร้อยละ 97.26 เสียชีวิตระหว่างทางขณะส่งต่อร้อยละ 2.74 onset to ER ภายใน 2 ชั่วโมงร้อยละ 12.32 onset to needle ภายใน 3 ชั่วโมงร้อยละ 10.95 นำส่งโรงพยาบาลโดยญาติร้อยละ 65.75 ลดระยะเวลาได้ 55 นาที และได้ผ่านการทดลองใช้แล้ว ประกอบด้วยการจัดทำระบบงานที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร เน้นการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มงานในแต่ละเวร การทำงานเป็นทีม การดูแล แบบองค์รวมได้เสนอแนะจนเป็นต้นแบบที่นำไปใช้ได้อย่างยั่งยืน เกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเกิดได้ทุกที่ทุกเวลา