การตรวจสอบความถูกต้องของวิธี High Performance Anion Exchange Chromatography with Pulse Amperometric Detection ในการวิเคราะห์ปริมาณแอนติเจนของวัคซีนป้องกันโรคจากเชื้อ Haemophilus influenzae Type B

ผู้แต่ง

  • วิริยามาตย์ เจริญคุณธรรม สถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
  • ชลดา เพชรไทย สถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
  • กนกพร ฤทธิธรรม สถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
  • สุภาพร ภูมิอมร สถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

คำสำคัญ:

เชื้อ Haemophilus influenzae type B, แอนติเจน, วัคซีน Haemophilus influenzae type B, วิธี HPAEC-PAD

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของวิธี HPAEC-PAD ในการตรวจหาปริมาณแอนติเจนของวัคซีนป้ องกัน Haemophilus influenzae type B โดยมีการเตรียมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการ ตรวจหาสภาวะที่เหมาะสม และตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมของวิธีในรายการ ความเป็นเส้นตรงและช่วงค่าของการวิเคราะห์ ความ จำเพาะของวิธี ความเที่ยง ความแม่น ขีดจำกัดของการตรวจพบและขีดจำกัดของการวัดเชิงปริมาณ ผลการศึกษาพบว่า กราฟสารมาตรฐาน ribitol มีความเป็นเส้นตรงในช่วงความเข้มข้น 0.15 และ 10.50 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร มีสมการถดถอยเชิงเส้น Y= 2E+06X+5946 และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 1 การทดสอบ F-test ได้ค่ามากกว่าค่า F-critical ที่ alpha 0.05 วิธีมีความจำเพาะสามารถแยกพีคของสาร ribitol ที่ retention time เฉลี่ย±ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 16.45±0.30 นาที ร้อยละส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสัมพัทธ์เท่ากับ 1.83 ความเที่ยงเมื่อทดสอบวัคซีนในวันเดียวกันหกครั้งและต่างวันกันหกครั้งได้ค่าเฉลี่ย±ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของปริมาณแอนติเจนเท่ากับ 16.94±0.40 และ 16.95±0.79 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรตามลำดับ ร้อยละส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานสัมพัทธ์เท่ากับ 2.38 และ 4.66 ตามลำดับ วิธีมีความแม่นสามารถตรวจวัดสาร ribitol ที่ใส่ในวัคซีนรวมคอตีบ บาดทะยัก ไอกรนทั้งตัว ตับอักเสบบี และฮิบ ทั้ง 3 ยี่ห้อ ได้ค่าร้อยละการคืนกลับอยู่ระหว่าง 83.56 และ 97.14 มีขีดจำกัดของการตรวจพบสาร ribitol ที่ 0.07 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร และขีดจำกัดของการตรวจวัดเชิงปริมาณที่ 0.22 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร การตรวจสอบวิธีทุกรายการผ่านเกณฑ์การยอมรับที่ตั้งไว้ จึงสรุปได้ว่าวิธี HPAEC-PAD ที่นำมาศึกษานี้มีความถูกต้อง แม่นยำ เชื่อถือได้ สำหรับการตรวจหาปริมาณแอนติเจนในวัคซีนฮิบ ที่ผสมรวมกับ คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน และตับอักเสบบี จึงสามารถนำมาใช้เป็นวิธีมาตรฐานเพื่อการควบคุมคุณภาพความแรงของวัคซีนฮิบทาง ห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพภาครัฐได้ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคได้ใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพความแรงตรงตามมาตรฐานของผลิตภัณฑ์และมาตรฐานสากล

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-06-29

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้

<< < 1 2