ประสิทธิผลของโปรแกรมความรู้เรื่องท่าทางที่ถูกต้อง ในชีวิตประจำวันและการออกกำลังกายเพื่อลดและป้องกัน อาการปวดหลังในผู้ป่วยปวดหลังส่วนล่างเรื้อรัง พื้นทีตำบลเขื่อน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

บทคัดย่อ

ผู้ป่วยปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังเป็นหนึ่งในห้าอันดับของโรคที่เป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่ตำบลเขื่อน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบระดับอาการปวดหลังและสมรรถภาพในการทำงาน ก่อนและหลังการให้โปรแกรมความรู้เรื่องท่าทางที่ถูกต้องในชีวิตประจำวันและการออกกำลังกายเพื่อลดและป้องกันอาการปวดหลัง และผลของการให้บริการกายภาพบำบัดเชิงรุกที่ปฐมภูมิ ทำการศึกษาในผู้ป่วยปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังตำบลเขื่อน จำนวน 36 คน โดยมีอายุไม่เกิน 60 ปี มีอาการปวดหลังในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีอาการขาอ่อนแรงและไม่มีประวัติในการผ่าตัดกระดูกสันหลัง วิธีการศึกษาคือให้โปรแกรมความรู้เรื่องท่าทางที่ถูกต้องในชีวิตประจำวันและการออกกำลังกายเพื่อลดและป้องกันอาการปวดหลังแก่ผู้ป่วย โดยใช้วิธีการสอนแบบสาธิตพร้อมกับ ฝึกปฏิบัติเป็นรายกลุ่มอย่างต่อเนื่องโดยนักกายภาพบำบัด กลุ่มละ 3 ครั้ง ทำการประเมินด้วยแบบประเมินระดับคะแนนความเจ็บปวดและแบบสอบถามทุพพลภาพโรแลนด์-มอริสสำหรับประเมินอาการปวดหลัง ผลการศึกษาพบว่า ภายหลังจากให้โปรแกรมผู้ป่วยร้อยละ 83.33 มีคะแนนระดับความเจ็บปวดลดลง และมีผู้ป่วยร้อยละ 77.27 มีสมรรถภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น จากนั้นมีการติดตามผู้ป่วยกลุ่มนี้ต่อเป็นเวลา 2 ปี พบว่ามีผู้ป่วยกลุ่มนี้ ปวดหลังซ้ำจนต้องเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลโกสุมพิสัยคิดเป็นร้อยละ 13.88 ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด ผลการศึกษาครั้งนี้สรุปได้ว่าการให้โปรแกรม ความรู้เรื่องท่าทางที่ถูกต้องในชีวิตประจำวันและการออกกำลังกายเพื่อลดและป้องกันอาการปวดหลังสามารถลดอาการปวดหลังช่วยให้สมรรถภาพในการทำงานดีขึ้น และการให้บริการกายภาพบำบัดเชิงรุกในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขื่อนทำให้ผู้ป่วยมีความรู้และลดการเป็นซ้ำ