การศึกษาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุด้วยการแพทย์แผนไทย 4 ภาค
คำสำคัญ:
ผู้สูงอายุ, พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ 8 อ., การแพทย์แผนไทยบทคัดย่อ
การศึกษาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุมีความสำคัญมากที่จะช่วยให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ในพฤติกรรมของผู้อายุ ข้อมูลที่ได้จะเป็นประโยชน์สำหรับเชิงนโยบายเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมของผู้สูงอายุที่เหมาะสม ส่งผลให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลตนเองได้โดยลดการพึ่งพิง ดังนั้นผู้วิจัยจึงสำรวจพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุ 4 ภาค และศึกษาสถานการณ์และการนำพฤติกรรมด้านการแพทย์แผนไทยมาใช้ในการดูแลสุขภาพ การวิจัยนี้ได้ผ่านการรับรองจริยธรรมการวิจัยในคน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระยะเวลาดำเนินการวิจัย 1 ปี เป็นการวิจัยผสมผสานแบบขั้น-ตอนเชิงอธิบาย โดยเชื่อมโยงผลการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีการสำรวจ สัมภาษณ์แบบเจาะลึกและทำกลุ่มโดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง เกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่วิจัยแบบเจาะจง คือ จังหวัดเลย จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดเชียงราย และจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดละ 50 คน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้จำนวน ร้อยละ ร่วมกับการวิเคราะห์เนื้อหา จากการสำรวจข้อมูลทั่วไปพบว่าผู้สูงอายุ 4 ภาค พบเป็นเพศหญิง จังหวัดเลยมีช่วงอายุที่มากที่สุด พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองทั่วๆ ไป กินผักผลไม้ตามฤดูกาล กินปลาเป็นหลัก และเมื่อเจ็บป่วยนึกถึงสมุนไพร เพราะสมุนไพรเป็นทั้งอาหารและยา เช่น กล้วยน้ำหว้า มะระขี้นก บริบท ประเพณี วัฒนธรรมและความเชื่อแต่ละภาคมีความแตกต่างกัน และแนวคิดการดูแลสุขภาพตนเองตามหลักพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการแพทย์-แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (อ.8) ของแต่ละภาคที่แตกต่างกันได้ คือ อ. อาหาร ส่วน อ. อื่นๆ มีความเหมือนกัน การศึกษาครั้งนี้ยืนยันพฤติกรรมการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุด้วยการแพทย์แผนไทยมีความสำคัญยังคงอยู่คู่กับวิถีชีวิตของชุมชน ถ้าผู้สูงอายุแข็งแรงมีคุณภาพชีวิตดี ทั้งร่างกาย จิตใจ และสิ่งแวดล้อม สามารถพึ่งตนเองภายใต้กรอบแนวคิด ความเชื่อ ประเพณี และวัฒนธรรมที่ดำรงอยู่ในชุมชนนั้นๆ
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2020 Journal of Health Science - วารสารวิชาการสาธารณสุข
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.