การเปรียบเทียบวิธีพยากรณ์แบบอนุกรมเวลาที่เหมาะสมสำหรับพยากรณ์ความต้องการใช้ยาที่มีมูลค่าการจัดซื้อสูงสุด: กรณีศึกษาสถาบันโรคทรวงอก
คำสำคัญ:
การพยากรณ์อนุกรมเวลา, ยาที่มีมูลค่าสูง, การบริหารคลังยาและเวชภัณฑ์บทคัดย่อ
ความเป็นมา: ปัจจุบันโรงพยาบาลได้รับการจัดสรรงบประมาณด้านการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์อย่างจำกัด การพยากรณ์ความต้องการ จึงเป็นเทคนิคที่นำมาใช้คาดการณ์ความต้องการใช้ยาในอนาคต โดยข้อมูลที่ได้จากการพยากรณ์สามารถนำไปประกอบการตัดสินใจจัดซื้อและบริหารคลังยาและเวชภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบวิธีการพยากรณ์แบบอนุกรมเวลาที่เหมาะสมสำหรับการพยากรณ์ความต้องการใช้ยามูลค่าสูงสุด และพยากรณ์ความต้องการใช้ยามูลค่าสูงของสถาบันโรคทรวงอกในปีถัดไป
วิธีวิจัย: เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบ retrospective โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากสถาบันโรคทรวงอก เพื่อคัดเลือกยาจำเป็นที่มีมูลค่าสูงสุดด้วยการวิเคราะห์ ABC-VEN นำยาที่วิเคราะห์ได้มาศึกษาลักษณะการเคลื่อนไหวของอนุกรมเวลาเพื่อเลือกวิธีพยากรณ์อนุกรมเวลา จากนั้นเปรียบเทียบวิธีพยากรณ์อนุกรมเวลาแต่ละวิธีโดยพิจารณาจากค่า mean absolute percent error (MAPE)
ผลการวิจัย: จากการคัดเลือกพบว่า Jardiance® 10 mg เป็นยาที่มีมูลค่าการจัดซื้อสูงสุดในปีงบประมาณที่ผ่านมา การเปรียบเทียบวิธีพยากรณ์อนุกรมเวลา 4 วิธี ได้แก่ วิธีถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ วิธีถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบถ่วงน้ำหนัก วิธีปรับเรียบเอ็กซ์โพเนนเชียลครั้งเดียว และวิธีถดถอยเชิงเส้นอย่างง่าย พบว่าวิธีถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ (การเคลื่อนที่ = 6) ให้ค่า MAPE ต่ำสุด (19.38) และเหมาะสมที่สุดสำหรับพยากรณ์ความต้องการยา โดยคาดการณ์ว่าความต้องการใช้ยานี้ในปีถัดไปอยู่ที่ 14,435 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 19.46 ล้านบาท
สรุปผล: วิธีพยากรณ์อนุกรมเวลาแบบถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ (การเคลื่อนที่ = 6) เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพยากรณ์ความต้องการยาที่มีมูลค่าสูง เช่น Jardiance® 10 mg สามารถประยุกต์ใช้ในการวางแผนการจัดซื้อได้อย่างสมเหตุผล
เอกสารอ้างอิง
กรมกิจการผู้สูงอายุ. สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2565 [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.); 2566 [สืบค้นเมื่อ 10 ม.ค. 2568]. สืบค้นจาก: https://thaitgri.org/?p=40208
กรมควบคุมโรค. กองโรคไม่ติดต่อ. รายงานสถานการณ์โรค NCDs เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. 2562 [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2563 [สืบค้นเมื่อ 10 ม.ค. 2568]. สืบค้นจาก: https://www.ddc.moph.go.th/dncd/journal_detail.php?publish=10358
ศุภิกา ตรีรัตนไพบูลย์. งบประมาณรายจ่ายด้านการสาธารณสุข: ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่เป็นธรรม เพียงพอ และยั่งยืน [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพมหานคร: สำนักงบประมาณของรัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร; 2567 [สืบค้นเมื่อ 10 ม.ค. 2568]. สืบค้นจาก: https://web.parliament.go.th/view/82/News_Detail/2567/1443/TH-TH
วราวัลย์ จึงศิวะพรพงษ์, นิธิเจน กิตติรัชกุล, สุธาสินี คำหลวง, อรพรรณ อ่อนจร, พัทธรา ลีฬหวรงค์, เนตรนภิส สุชนวนิช, และคณะ. การศึกษาการจัดซื้อยาของโรงพยาบาลภายหลังการบังคับใช้พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: มูลนิธิเพื่อการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ; 2562 [สืบค้นเมื่อ 10 ม.ค. 2568]. สืบค้นจาก: https://www.hitap.net/documents/178536
Mfizi E, Niragire F, Bizimana T, Mukanyangezi MF. Analysis of pharmaceutical inventory management based on ABC-VEN analysis in Rwanda: a case study of Nyamagabe district. J Pharm Policy Pract. 2023;16(1):30. doi: 10.1186/s40545-023-00540-5.
ณัฐปรียา ฉลาดแย้ม, ประกายกาณ์ ชูศร, ยุภาพร ตงประสิทธิ์. การวิเคราะห์แบบเอบีซี ABC Analysis [วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. ขอนแก่น: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2558.
สันติ แก้วงาม. การบริหารการจัดซื้อยาในโรงพยาบาลตะกั่วป่าโดยใช้ ABC-VEN matrix. วารสารเภสัชกรรมคลินิก [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [สืบค้นเมื่อ 10 ม.ค. 2568];27(3):103-11. สืบค้นจาก: https://thaidj.org/index.php/TJCP/article/view/11860
Ahmed HA, Kheder SI, Awad MM. Pharmaceutical inventory control in Sudan central and hospital stores using ABC-VEN analysis. Glob Drugs Therap. 2019;4(2):1-6. doi: 10.15761/GDT.1000172.
บุญเย็น หนูเล็ก. การศึกษาการจัดกลุ่มรายการยาโดยใช้การวิเคราะห์แบบ ABC-VEN matrix ในโรงพยาบาลตราด [อินเทอร์เน็ต]. ตราด: งานจัดการความรู้ โรงพยาบาลตราด; 2566. [สืบค้นเมื่อ 10 ม.ค. 2568]. สืบค้นจาก: https://trathospital.go.th/KM/TempDoc/temp_3587.pdf
ปิยาณี อ่อนเอี่ยม. การจัดการคลังยาด้วย ABC-VEN เมตริกซ์ของสถาบันราชประชาสมาสัย. มฉก.วิชาการ [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [สืบค้นเมื่อ 10 ม.ค. 2568];25(2):258-72. สืบค้นจาก: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/HCUJOURNAL/article/view/252401
Rivera-Castro R, Nazarov I, Xiang Y, Pletneev A, Maksimov I, Burnaev E. Demand forecasting techniques for build-to-order lean manufacturing supply chains. Proceeding of the 16th International Symposium on Neural Networks; 2019 Jul 10-12; Moscow, Russia. p.1-10. doi: 10.48550/arXiv.1905.07902.
Ingle C, Bakliwal D, Jain J, Singh P, Kale P, Chhajed V. Demand forecasting: literature review on various methodologies. Proceeding of the 12th International Conference on Computing Communication and Networking Technologies (ICCCNT); 2021 Jul 6-8; Kharagpur, Indian Institute of Technology Kharagpur, India. doi: 10.1109/ICCCNT51525.2021.9580139.
Saravana KM, Saraswathi MR, Narmadha R, Tejaswini PK. Time series analysis and forecasting: unveiling patterns and enhancing predictions for pharmaceutical sales. In: Thangavel M, Jaisingh W, Varalakshmi P, editors. Artificial intelligence transformations for healthcare applications: medical diagnosis, treatment, and patient care [Internet]. n.p.: IGI Global; 2024 [cited 2025 Jan 25]. p. 304-343. Available from: https://www.igi-global.com/chapter/time-series-analysis-and-forecasting/351611
Rushton R, Lorraine O, Tiong J, Karim M, Dixon R, Greenshields W, et al. Forecasting inventory for the state-wide pharmaceutical service of South Australia. Procedia Comput Sci. 2023;219: 1257-64. doi: 10.1016/j.procs.2023.01.409.
Cryer JD, Chan K-S. Model diagnostics. In: Cryer JD, Chan K-S, editors. Time series analysis with applications in R. 2nd ed. New York: Springer Science + Business Media, LLC; 2008. p. 175-190.
Tofallis C. A better measure of relative prediction accuracy for model selection and model estimation. J Oper Res Soc. 2015;66(8):1352-62. doi: 10.1057/jors.2014.103.
ดาว สงวนรังศิริกุล, หรรษา เชี่ยวอนันตวานิช, มณีรัตน์ แสงเกษม. การศึกษาเปรียบเทียบเพื่อหาตัวแบบที่เหมาะสมสำหรับพยากรณ์จำนวนผู้ป่วยที่เป็นโรคเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาในกรุงเทพมหานคร. วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ [อินเทอร์เน็ต]. 2558 [สืบค้นเมื่อ 10 ม.ค. 2568];38(1):35-55. สืบค้นจาก: https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/KMUTT/article/view/71345
โสภิดา ท้วมมี, สุพิชชา ชีวพฤกษ์, ณัฐวุฒิ อิ่มใจ, ภคพล พรสิทธิ์มหาสิริ, ปิยะ รนต์ละออง. การเลือกเทคนิคการพยากรณ์ปริมาณความต้องการหน้ากากอนามัยเพื่อวางแผนการสั่งซื้อวัตถุดิบ. วารสารวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมบ้านสมเด็จ [อินเทอร์เน็ต]. 2567 [สืบค้นเมื่อ 10 ม.ค. 2568];5(1):33-46. สืบค้นจาก: https://ph04.tci-thaijo.org/index.php/JEITB/article/view/5386
กิ่งแก้ว มาพงษ์, สัมมนา มูลสาร, วิภาวี เสาหิน, อาภรณ์ จตุรภัทรวงศ์. การศึกษาแบบจำลองสถานการณ์รูปแบบการจัดซื้อเพื่อลดต้นทุนรวมของการบริหารเวชภัณฑ์ กรณีศึกษา: โรงพยาบาลวารินชำราบ. วารสารวิชาการสาธารณสุข [อินเทอร์เน็ต]. 2557 [สืบค้นเมื่อ 10 ม.ค. 2568];23(6):1077-86. สืบค้นจาก: https://thaidj.org/index.php/JHS/article/view/797

ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ ชมรมเภสัชกรโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อความภายในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารเภสัชกรรมคลินิกทั้งหมด รวมถึงรูปภาพประกอบ ตาราง เป็นลิขสิทธิ์ของกองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ ชมรมเภสัชกรโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสารเภสัชกรรมคลินิกอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ ชมรมเภสัชกรโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้สามารถนำไฟล์บทความไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ต่อได้ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอน (Creative Commons License: CC) โดย ต้องแสดงที่มาจากวารสาร – ไม่ใช้เพื่อการค้า – ห้ามแก้ไขดัดแปลง, Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับกองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ ชมรมเภสัชกรโรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรในกองฯ หรือ ชมรมฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการ