ผลการสนับสนุนการจัดการสุขภาพตนเอง การเฝ้าระวัง ควบคุมปัจจัยเสี่ยง โรคหลอดเลือดสมอง และผลลัพธ์ทางคลินิกในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสุขภาพและสถานีสุขภาพดิจิทัล และการพัฒนาระบบบริการช่องทางด่วนสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โดยการเสริมสร้าง

ผู้แต่ง

  • Pacharawan Khusakunrat สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม

บทคัดย่อ

          การวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการสนับสนุนการจัดการสุขภาพตนเอง การเฝ้าระวัง ควบคุมปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง และผลลัพธ์ทางคลินิกในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสุขภาพ และสถานีสุขภาพดิจิทัลและการพัฒนาระบบบริการช่องทางด่วนสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมของเครือข่ายสุขภาพภาคประชาชน และชุมชน จังหวัดมหาสารคาม มีขั้นตอนดำเนินการ 4 ขั้นตอนที่ 1 จัดกระบวนการ Appreciation Influence Control (AIC) กำหนดแผนงานการแก้ไขปัญหา กลุ่มตัวอย่างผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนารูปแบบโดยใช้กระบวนการ AIC และการจัดการสุขภาพตนเอง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้แทนครอบครัว อาสาสมัครสาธารณสุข เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน จำนวน 60 คน ขั้นตอนที่ 2 การวางแผนและกำหนดบทบาท องค์กร การดำเนินงาน สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมค้นหาวิธีการ กระบวนการสำคัญและกำหนดทางเลือกในการพัฒนา ขั้นตอนที่ 3 ดำเนินการตามกิจกรรม เฝ้าระวัง ควบคุมความเสี่ยงและจัดระบบบริการช่องทางด่วนโรคหลอดเลือดสมอง โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสุขภาพ และสถานีสุขภาพดิจิทัล กลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 245 คน ขั้นตอนที่ 4 ประเมินผลการดำเนินงาน ระยะเวลาดำเนินการ เดือนมกราคม 2567 ถึง ตุลาคม 2567 เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามก่อนและหลังดำเนินการ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปรียบเทียบค่าเฉลี่ย ใช้สถิติ Paired t-test

          ผลการศึกษา พบว่า ระยะหลังดำเนินการ กลุ่มตัวอย่างมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงดีขึ้นกว่าระยะก่อนดำเนินการทุกปัจจัย มีค่าคะแนนเฉลี่ยในระยะหลังดำเนินการเพิ่มขึ้นจากระยะก่อนดำเนินการ คะแนนเฉลี่ย Mean = 13.56,SD = 13.42 การเปรียบเทียบคะแนนความเสี่ยง CVD Risk ก่อนและหลังดำเนินการ พบว่า มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.001) ผลลัพธ์ทางคลินิก เปรียบเทียบค่าความดันโลหิตบน (Systolic) ความดันโลหิตล่าง (Diastolic) เมื่อทดสอบความแตกต่างทางสถิติ พบว่า ค่าเฉลี่ยค่าความดันโลหิตบน (Systolic) และความดันโลหิตล่าง (Diastolic) ก่อนกับหลังดำเนินการ มีความแตกต่างอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.001) ด้านความรู้เรื่องช่องทางด่วนโรคหลอดเลือดสมอง คะแนนเฉลี่ยระดับปานกลาง (Mean =14.17, SD =1.93) มีความแตกต่างอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.001) การทดสอบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล ภายใต้สถานการณ์จำลองการส่งต่อระบบช่องทางด่วน พบว่า สามารถนำส่งผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ค่าเฉลี่ย 38 นาที

          สรุปผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยความสำเร็จขึ้นกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการเฝ้าระวัง ติดตามดูแลสุขภาพของประชาชน ศักยภาพของผู้นำและการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ประโยชน์ผ่านกิจกรรมเวทีแบ่งปันและพัฒนาศักยภาพ อสม.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-08-29

วิธีการอ้างอิง