การพัฒนารูปแบบการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติของเครือข่ายสุขภาพ ระดับปฐมภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
คำสำคัญ:
รูปแบบ, การนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติ, เครือข่ายสุขภาพระดับปฐมภูมิบทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบและประเมินประสิทธิผลการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติของเครือข่ายสุขภาพระดับปฐมภูมิจังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ปฏิบัติงานยุทธศาสตร์และแผนงานของแต่ละโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลชุมชน และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ จำนวน 40 คน ดำเนินงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560-30 กันยายน 2561 เก็บรวมรวบข้อมูลใช้ฐานข้อมูลคลังสุขภาพ HDC (Health data center) และฐานข้อมูลการติดตามตัวชี้วัดด้านสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดแบบ ONLINE และวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ความถี่ และร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า
1) รูปแบบการนำกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติของเครือข่ายสุขภาพระดับปฐมภูมิจังหวัดร้อยเอ็ด ประกอบด้วยหลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการดำเนินงาน และปัจจัยเอื้อและสนับสนุน ซึ่งกระบวนการดำเนินงานแบ่งเป็น 4 ขั้น (PDMI model) ได้แก่ (1) การวางแผน (2) การนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ (3) การควบคุม กำกับ ติดตาม และประเมินผล และ (4) การปรับปรุง และสะท้อนผล ซึ่งเป็นรูปแบบที่มีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.68, SD = 0.64) และ 2) ผลการประเมินตัวชี้วัดรอบ 12 เดือน พบว่า ความสำเร็จของการบริหารยุทธศาสตร์ระดับคะแนน 4 และ 5 โดยรวม (85.29%) เมื่อพิจารณาเป็นรายยุทธศาสตร์ พบว่า ยุทธศาสตร์บุคลากรเป็นเลิศ และการบริหารเป็นเลิศด้วยหลักธรรมาภิบาล ระดับคะแนน 5 (100.00%) รองลงมา คือ บริการเป็นเลิศ (62.50%) และการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันและคุ้มครองผู้บริโภคเป็นเลิศ (60.00%) แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า มีตัวชี้วัดที่ได้คะแนนระดับ 1 คือ อัตราการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บทางถนน ระดับ 2 คือ เด็กอายุ 0-5 ปี สูงดีสมส่วน และผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่จากกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน
เอกสารอ้างอิง
Aniwach Keawchumnong. (2008). Strategic Management. Songkhla. Nam Sin Advertising Company Ltd.
Certo C.Samuel and Perter. (1990). Strategic Management: A Focus on Process. New York: McGraw-Hill.
Eisner, E (1976). “Education Connoisseurship and Criticism : Their Form and Functions inEducational Evaluation,” Journal of Aesthetic Education. 39(2), 192-193.
Grunig R, Kuhn R, Clark A.(2008). Process-based strategic planning. (5th ed.). The Netherlands: Krips Meppel.
Kaufman R, Oakley-Browne H, Watkins R, Leigh, D. (2003). Strategic planning for success: Aligning people, performance, and payoff. San Francisco, CA: Jossey-Bass.
Keeves, Peter J. (1988). “Model and Model Building,” Educational Research Methodology and Measurement : An International Handbook. Oxford : Pergamon Press.
Krirkyot Chalaiyondacha. (2006). 58705 Strategic planning and quality improvement of hospital Services. Sukhothaithammathirat Open University Publisher. Nonthaburi
Kruse, K. Introduction to Instructional Design and the ADDIE Model [Online]. Accessed 10 October 2017. Available from http:// www.e-learningguru.com/articles/art2_1.html.
Nataphan Khachonnan. (2009). Strategic management. Bangkok : Se-ed Ucation.
Nongnuch Boonyong. Nursing strategy planning. Thai Journal of Nursing Council. (2010): 25(2). 25.
Pearce, John A., ll, and Richard B. Robinson, Jr. (1998). Strategic Management : Strategy Formulation and Implementation.
Prapas Ananta and Satianpong Siwina. Model of Implementing a Strategic Plan into practice of primary care units Kaset Wisai Roi-Et. Journal of the Office of DPC 6 KHON KAEN. 20 (1): (2013): October-March. 43-51.
Sakron Suksriwong. (2012). Management: From the Executive Perspective. Title (10th ed.). GP Cyber Print Company Ltd.
Thotphon Sirisamphan. (1996). Strategic public administration and overview of strategic management and planning. Bangkok. Policy and Management Development Institute. Chulalongkorn University.
Warangana Phonprasert. (2013). Unit 9 Strategic Implementation. Science Program in Health Science. Sukhothaithammathirat Open University.
Wattana Wongkaitrat.(1997). Strategic plan management in government agencies. Departmen Public Administration. Faculty of Political Science. Chulalongkorn University.
Wheelen Thomas,L and J. David Hunger. (2002). Strategic Management and Business Policy. 8th ed. Addison-Wesley, Inc: New York.
Wimon Maksawat. Analysis of strategic driving books: implementing strategies Success. Journal of Behavioral Science. 15 (1): 2552. 185-186.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2019 Journal of Department of Health Service Support-วารสารวิชาการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.