Evaluation of shearing bond strength between different base surfaces of orthodontic metal brackets
Abstract
Background: For orthodontic treatment, we use orthodontic metal brackets were applied to bond on enamel surface. Recently, base of metal bracket surface was developed for better bonding and long last for entire treatment, in order to getting the best result of orthodontic treatment.
Objective: To evaluate shearing bond strength between different base surfaces of orthodontic metal brackets.
Study design: 20 same sized brackets, 10 monoblock and 10 mesh were used in this study and both groups were bonded with the same resin composite putting each specimen in a model ring which had 1.5cm. in diameter. Then testing for shearing bond strength was done by universal testing machine, cross-head speed was set at 1mm. per minute. The cross-head was applied until bracket failure occurred.
Result: shearing bond strenght of monoblock was 45.98 MPa, while mesh was 31.7 MPa. Shearing bond strength comparing between monoblock and mesh had no significant difference.
Conclusion: in the study, different base of metal bracket surface, monoblock and mesh, metal brackets had no different in shearing bond strength.
Keywords: shearing bond strength, surface of metal orthodontic brackets
References
ปิยะนารถ เอกวรพจน์. วัสดุบูรณะฟัน เรซินคอมโพสิต ส่วนประกอบการพัฒนา และการเลือกใช้งาน. วารสารมหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ (สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) 2557;112-33.
วิธวัช วงศ์สมุทร, สิริโฉม สาตราวาหะ, กรชนก วยัคฆานนท์. ผลของการทาไพรเมอร์ต่อความแข็งแรงยึดติดเฉือนระหว่างแบร็กเกตจัดฟันกับวัสดุอะมัลกัม [อินเตอร์เน็ต]. 2560 [เข้าถึงเมื่อ 1 พฤษภาคม 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://gsbooks.gs.kku.ac.th/60/nigrc 2017/pdf/MMO6.pdf
ธารินทร์ เพียงสุข, ธีระพงษ์ ม้ามณี, ศิริพงศ์ ศิริมงคลวัฒนะ. ผลของไพรเมอร์และสารยึดติดที่มีเท็นเอ็มดีพีเป็นส่วน ประกอบต่อความแข็งแรงยึดเฉือนระดับจุลภาคระหว่างเซลฟ์แอดฮีซีฟเรซินซีเมนต์กับเซอร์โคเนีย. เชียงใหม่ทันตสาร 2561;39(3):81-90.
วิกันดา เขมาลีลากุล. กำลังแรงยึดเฉือนของการยึดติดแบร็กเกตโลหะบนผิวเคลือบฟันเมื่อใช้เมทัลแอดฮีซีฟไพรเมอร์. วารสารทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2563;60(3):200-5.
สุภัสสรา ศิรบรรจงกราน. กำลังแรงยึดแบบเฉือนระหว่างแบร็กเกตจัดฟันโลหะและผิวโลหะหล่อผสมพื้นฐานทางทันตกรรมที่เตรียมด้วยวิธีทางเคมี. เชียงใหม่ทันตสาร 2563;41(2):101-11.
พลอยลดา วิทวัสพันธุ์, อธิคม สุรินทร์ธนาสาร. กำลังแรงยึดเฉือนระหว่างแบร็กเกต จัดฟันโลหะกับวัสดุบูรณะเซอร์โคเนีย ที่ผ่านการปรับสภาพผิวที่แตกต่างกัน [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 30 เมษายน 2565]. เข้าถึงได้จาก: http://www. dent.chula.ac.th/upload/ images2/ graduate/ 6175829132.pdf
กรพินท์ มหาทุมะรัตน์. การศึกษากำลังแรงยึดเฉือนผิวปอกของวัสดุยึดทาง ทันตกรรมจัดฟันที่ยึดแบร็กเก็ตซึ่งได้รับการเป่าทรายกับผิวเคลือบฟันเปรียบเทียบกับแบร็กเก็ตใหม่. วารสารทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2553;33(1): 25-30.
วรุฒ ทองเกิด, ธนากร วาสนาเพียรพงศ์, ภาวิณีย์ ปฎิพัทธ์วุฒิกุล ดิดรอน, นงลักษณ์ สมบุญธรรม. การศึกษาความต้านทานต่อการแตกหักของไทวิงส์และความแข็งแรงพันธะเฉือนของศรีนครินทร วิโรฒแบร็กเกตจัดฟันชนิดอะลูมินัมออกไซด์เซรามิก. วิทยาสารทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2563;23(3):32-43.
ธวัชชัย วงพงศธร, สุรีย์พันธุ์ วรพงศธร. การคำนวณขนาดตัวอย่างสำหรับงานวิจัยโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป G PoWER. วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม 2561;41(2):11-21.
บุญชม ศรีสะอาด. วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สุรีย์วิทยาสาส์น; 2542.
Tayebi A, Fallahzadeh F, Morsaghian M. Shear bond strength of orthodontic metal brackets to aged composite using three primers. J Clin Exp Dent. 2017;9(6):e749-55.
Artun J and Bergland S. Clinical trials with crystal growth conditioning as an alternative to acid-etch enamel pretreatment. Am J Orthod 1984; 85:4:333-40.
Valletta R, Prisco D, DeSantis R, Ambrosio L and Martina R. Evaluation of the debonding strength of orthodontic brackets using three different bonding system. Eur J Orthod 2007;29:571-7.
Nataly Corahua-Raymi, Seber Guardia-Huamani, Luis Cervantes-Ganoza, Leonor Castro-Ramirez, Carlos Lopez-Gurrenonero, Alberto Cornejo-Pinto, Cesar Cayo-Rojas. Shear bond strength of three different metal bracket base designs on human premolars: An in vitro comparative study. J Clin Exp Dent. 2024 Jan 1;16(1):e78-e83. doi:10.4317/jced.61166.
