พฤติกรรมการดูแลตนเอง ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร

บทคัดย่อ

          การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับพฤติกรรมการดูแลตนเอง 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยลักษณะส่วนบุคคล ปัจจัยด้านความรู้ และปัจจัยการสนับสนุนทางสังคมรายด้าน กับพฤติกรรมการดูแลตนเอง และ3) ศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับการดูแลตนเอง ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลุ่มตัวอย่างคือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 274 คน ทำการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลคือแบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมันอยู่ระหว่าง 0.77-0.93 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์ค่าความสัมพันธ์ และการวิเคราะห์เนื้อหา

          ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับพฤติกรรมการดูแลตนเอง ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 รายด้าน ส่วนใหญ่อยู่ในระดับสูง ยกเว้นด้านการลงทะเบียนเข้า-ออก สถานที่สาธารณะ มีพฤติกรรมการดูแลตนเองอยู่ในระดับปานกลาง 2) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่ การได้รับการอบรมความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (r_pb= 0.73) ประวัติการป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (r_pb= 0.36) ความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (r_xy= 0.74) การสนับสนุนด้านอารมณ์ (r_xy= 0.70) การสนับสนุนด้านการประเมินผล (r_xy= 0.71) การสนับสนุนด้านข้อมูลข่าวสาร (r_xy =0.71) และการสนับสนุนด้านสิ่งของหรือบริการ (r_xy=0.71) และ 3) ปัญหาอุปสรรค ได้แก่ ไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลามีการใช้หน้ากากอนามัยซ้ำเกิน 1 วัน ไม่ได้ล้างมือทุกครั้งหลังมีการสัมผัสแหล่งเสี่ยง และไม่อาจหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลอื่น หรือเว้นระยะห่างกันได้ตลอดเวลา เป็นต้น ส่วนข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงพัฒนา ได้แก่ การเน้นการล้างมือให้ถูกวิธี ให้มีการควบคุม ตรวจสอบการจำหน่าย หน้ากากอนามัยและชุดตรวจหาเชื้อเบื้องต้นให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรพัฒนา ปรับปรุง ระบบแอพพลิเคชัน การลงทะเบียนเข้า-ออก
ให้รวดเร็ว และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรค
อย่างต่อเนื่อง