การพัฒนารูปแบบการป้องกันและเฝ้าระวังการคลอดก่อนกำหนด โดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายบริการสุขภาพระดับอำเภอ อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่
คำสำคัญ:
การคลอดก่อนกำหนด, การมีส่วนร่วม, เครือข่ายบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการป้องกันและเฝ้าระวังการคลอดก่อนกำหนด โดยการมีส่วนร่วมของเครือข่าย อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ โดยนำแนวคิดกระบวนการพัฒนา PDCA cycle มาใช้ร่วมกับกระบวนการทำงานแบบมีส่วนร่วม กลุ่มตัวอย่างเลือกแบบเฉพาะเจาะจงคือ เครือข่ายการดำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนารูปแบบการป้องกันและเฝ้าระวังการคลอดก่อนกำหนดในหญิงตั้งครรภ์โรงพยาบาลเหนือคลอง และเครือข่ายบริการสุขภาพ จำนวน 14 รพ.สต. ระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึง มีนาคม 2567 เก็บรวบรวมข้อมูลการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพตามหลักการวิเคราะห์เนื้อหา และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ จำนวน และร้อยละ ผลการศึกษาพบว่า การปฏิบัติเกี่ยวกับการป้องกัน การคลอดก่อนกำหนดโดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายบริการสุขภาพระดับอำเภอที่สำคัญคือ การคัดกรองปัจจัยเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดแนวทางการคัดกรองยังไม่มีความเฉพาะเจาะจงและครอบคลุมปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กับการคลอด ก่อนกำหนดรูปแบบและวิธีการให้ความรู้แก่หญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทำให้หญิงตั้งครรภ์เกิดความตระหนักและมีความสามารถเพียงพอที่จะดูแลตนเองได้ สำหรับการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ในการพัฒนารูปแบบการป้องกันและเฝ้าระวังการคลอดก่อนกำหนดโดยการมีส่วนร่วมของเครือข่าย อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ 1) คลินิกฝากครรภ์ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ต้องมีการคัดกรองปัจจัยเสี่ยงต่อการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดโดยปรับปรุงแนวทางการคัดกรองปัจจัยเสี่ยงให้ครอบคลุมปัจจัยเสี่ยงประกอบด้วย 5 ด้าน และ 2) ห้องคลอดโรงพยาบาลเหนือคลอง ต้องมีการประเมินภาวะเสี่ยงของหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดโดยใช้แบบประเมินเดียวกันกับแบบคัดกรองปัจจัยเสี่ยงในหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการที่คลินิกฝากครรภ์ การให้ความรู้เกี่ยวกับการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดและการจัดการเพื่อป้องกันการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดตามสภาพปัญหาและปัจจัยเสี่ยงที่มีต่อการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดในหญิงตั้งครรภ์แต่ละราย และแนวทางปฏิบัติการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
เอกสารอ้างอิง
Cunningham F. et al. (2018). Preterm birth. In Williams Obstetrics. New York, NY: McGraw-Hill Education.
Deming, W. E. (1986). Out of the crisis. Cambridge, MA: Massachusetts Institute of Technology.
Ketdao K. et al. (2021). Development process of High Risk Pregnancy Udon Model 7 step Health Promoting Hospital Udon Thani Province. Research and Development Health System Journal, 14(2), 239-246.
Nanthawong, N. (2022). Prevalence and risk factors related to preterm birth among teenage pregnancy in Chaiyaphum Hospital. Chaiyaphum Medical Journal, 42(2), 69-81.
Pensuk B. et al. (2023). Development and Evaluation the Clinical Nursing Practice Guidelines for Pregnant Women with Preterm Labour at Samutsakhon Hospital. The Journal of Boromarjonani College of Nursing Suphanburi, 6(2), 78-97.
Ruankhong, W. (2020). Preterm Labour Prevention and Surveillance Model Driven by the Networks (Research Report). Maternal and Child Health Development Group, Health Center 4 Saraburi, Department of Health, Ministry of Public Health.
Sattana, S. (2022). Development of Prevention Preterm Birth in Buntharik District, Ubonratchathani rovince. Journal of Environmental and Community Health, 7(2), 109-116.
The Subcommittee on Professional Standards. (2020). RTCOG Clinical Practice Guideline Intrapartum Fetal Monitoring. The Royal Thai College of Obstetricians and Gynaecologists. https://www.rtcog.or.th/photo/cpg/OB-63-025.pdf
World Health Organization. (2023, May 10). Preterm birth. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/preterm-birth
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

