Predicting Factors of Attitude towards Sexually Transmitted Infections among Junior High School Students in Lampang Municipality, Lampang Province
Keywords:
predictive factor, attitude, sexually transmitted Infections (STIs), secondary school studentsAbstract
This research was a predictive study aiming to investigate the level of knowledge and attitude towards sexually transmitted infections and predictive factors for attitudes towards sexually transmitted infections. Altogether 324 secondary school students in the municipal area, Lampang Province, were selected by cluster random sampling. Data were collected using the knowledge and attitude questionnaire about sexually transmitted diseases. Descriptive statistics were applied for analysis of general data and the level of knowledge and attitude. Predictive factors for attitudes toward sexually transmitted infections were analyzed with multiple linear regression statistics. The results showed that most of the samples (75.93%) had moderate level of knowledge about sexually transmitted infections with the mean score of 24.98. The overall attitude level towards sexually transmitted infections of the samples was at a good level (Mean=3.93, SD=0.42). The four predictive variables in this study including gender, knowledge about sexually transmitted infections, experience of training/meeting/learning about sexually transmitted infections, and participation in activities related to sexually transmitted infections had the predictive power of attitude level towards sexually transmitted infections by 20.30%. It was also found that knowledge about sexually transmitted infections was a statistically significant predictor of attitude towards sexually transmitted infections (p<0.01). The research results indicated that teaching about sexually transmitted infections should be promoted in order to raise knowledge, understanding and attitudes towards sexually transmitted diseases among secondary school students.
Downloads
References
World Health Organization. Report on global sexually transmitted infection surveillance 2018: World Health Organization; 2018.
กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สรุป รายงานการเฝ้าระวังโรค ประจำปี 2562. นนทบุรี: กอง ระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 2562.
กองสถิติพยากรณ์ สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม. สถานการณ์เด็กและเยาวชน 2564. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานสถิติแห่งชาติ; 2564.
ไทยพีบีเอส (Thai PBS). แพทย์เผยวัยรุ่น 15-24 ปี ป่วย โรคทางเพศสัมพันธ์มากสุด [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2566]. แหล่งข้อมูล: https://www.thaipbs.or.th/ news/content/279871.
ถนอม นามวงศ์, สุกัญญา คำพัฒน์, ปิญชาน์ ปรัชญคุปต์. อัตราความชุกและปัจจัยที่สัมพันธ์กับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มเยาวชน จังหวัดยโสธร. วารสารโรคเอดส์ 2562;31(3):116-24.
นักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานเฝ้าระวังโรค 506 [อินเตอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 9 เม.ย. 2566]. แหล่งข้อมูล: http://www.boe.moph.go.th/boedb/ surdata/disease. php?dcontent=old&ds=37.
อภิรดี อุทัยไพศาลวงศ์. ความสัมพันธ์ของสตรีตั้งครรภ์ ติดโรคซิฟิ ลิสต่อผลลัพธ์การตั้งครรภ์และการเกิดทารก วินิจฉัยโรคซิฟิ ลิสโดยกาเนิด. วารสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2564;63(2):348-58.
Korenromp EL, Rowley J, Alonso M, Mello MB, Wijesooriya NS, Mahiané SG, et al. Global burden of maternal and congenital syphilis and associated adverse birth outcomes-Estimates for 2016 and progress since 2012. PLoS One 2016;14(2):1-17.
ศิริพร จิรวัฒน์กุล, ยุพา ถาวรพิทักษ์, ปิยะลักษณ์ ภักดีสมัย. ความรู้เกี่ยวกับการคุมกำเนิดการป้ องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์/เอชไอวีเอดส์ผลของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นและพฤติกรรมทางเพศของนักเรียนใน 17 จังหวัด. วารสารกรมควบคุมโรค 2562;45(1):65-74.
พอเพ็ญ ไกรนรา. ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์และการป้ องกันการตั้งครรภ์ของนักเรียน ระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองสระบุรี. วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า 2556;30(4):274-86.
ปัญญ์กรินทร์ หอยรัตน์, ปราโมทย์ วงศ์สวัสดิ์ . ปัจจัยที่มี อิทธิพลต่อพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษา. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล 2563; 36(1):149-63.
จุฑาทิพย์ ยอดสง่า, มณีวรรณ ดาบสมเด็จ, เกศิณี หาญจังสิทธิ์ , ภคิน ไชยช่วย, อุรารัช บูรณะคงคาตรี. ปัจจัยที่มี ความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้ องกันโรคซิฟิ ลิสของ นักเรียนเทคนิค. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา 2564;1(2):58-74.
Cohen J. A power primer. Psychological Bulletin 1992; 112(1):155-9.
Drago F, Ciccarese G, Zangrillo F, Gasparini G, Cogorno L, Riva S, et al. A Survey of Current Knowledge on Sexually Transmitted Diseases and Sexual Behaviour in Italian Adolescents. Int J Environ Res Public Health 2016;13(4):422.
พัชราวรรณ จันทร์เพชร, ฉัตรลดา ดีพร้อม. ผลของโปรแกรม ส่งเสริมพฤติกรรมการป้ องกันโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ใน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1 อำเภอโพนทอง จังหวัด ร้อยเอ็ด. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ 2562;42(4): 92–101.
มนัสวีร์ ศรีนนท์. ทฤษฎีเจเนอเรชันกับกรอบวิธีคิด. วารสารศึกษาศาสตร์ มมร คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย 2561;6(1):364-73.
บำเพ็ญจิต แสงชาติ, จิตภินันท์ ศรีจักรโคตร. ความรู้เรื่อง โรคเอชไอวี/เอดส์และทัศนคติเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศของ นักศึกษาพยาบาล มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง. วารสารพยาบาล ศาสตร์และสุขภาพ 2560;38(2):95-102. 1
วัลยา ธรรมพนิชวัฒน์, เบ็ญจมาศ โอฬารรัตน์มณี. เพศศึกษา สำหรับวัยรุ่นในโรงเรียน: กรณีศึกษาในกรุงเทพมหานคร. วารสารสภาการพยาบาล 2561;33(3):82-98.
ชัยวัฒน์ ยุวมิตร, เมรีรัตน์ มั่นวงศ์. ความรู้ ทัศนคติ และ พฤติกรรมการป้ องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของ นักศึกษาชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย. วารสารการแพทย์- และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 2564;4(1):67- 77.
Schiffman LG, Kanuk LL. Consumer behavior. Englewood Cliff, NJ: Prentice Hall; 2000.
วรัญญา ไชยโคตร, รัติติยา พานิพัฒน์, เกศิณี หาญจังสิทธิ์ , ภคิน ไชยช่วย, อุรารัช บูรณะคงคาตรี. ปัจจัยที่มีความ สัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้ องกันโรคซิฟิ ลิสในนักเรียน อาชีวศึกษา. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพ 2564;1(1): 17-31.
พิมพวัลย์ บุญมงคล, เพชรรัตน์ พรหมนารท, ณัฐรัชต์ สาเมาะ, Ojanen T, Guadamuz T, Burford J, และคณะ. รายงานผลการวิจัยเพื่อทบทวนการสอนเพศวิถีศึกษาใน สถานศึกษาไทย. กรุงเทพมหานคร: องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย; 2559.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.