การดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุ ในเขตอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสำคัญ:
ผู้สูงอายุ, สุขภาพ, การดูแลสุขภาพตนเองบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุ ตามตัวแปรเพศ และอาชีพเดิมของผู้สูงอายุ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นผู้สูงอายุทั้งเพศชายและเพศหญิงในเขตอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งหมด111 หมู่บ้าน จำนวน 6,276คน เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีสุ่มแบบแบ่งชั้นสัดส่วนหมู่บ้านละ 5 คน ได้กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยทั้งสิ้นจำนวน 555 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยนำมาทดลองใช้ ซึ่งผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงและความเชื่อมั่น เก็บข้อมูลในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2550 กลุ่มตัวอย่างได้ตอบแบบสอบถามกลับคืนมาจำนวน 492 คน คิดเป็นร้อยละ 88.65 แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) การทดสอบค่าที่ วิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-way Analysis of Vari-ance) และทดสอบความแตกต่างระหว่างคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ (Schaffe's test) ผลการศึกษา พบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่เป็นหญิง ร้อยละ 64.60 มีอายุระหว่าง 65-69 ปี ร้อยละ 40.20 จบระดับประถมศึกษา ร้อยละ 88.41 และมีอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 61.59 โดยส่วนใหญ่ได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพตนเองมาจากบุคลากรสาธารณสุข ร้อยละ 78.90 มีการดูแลสุขภาพตนเองในด้านการกินอาหารการนอนหลับและ การพักผ่อนหย่อนใจ การออกกำลังกาย การใช้สารเสพติด การรักษาสุขภาพจิต โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับดี การเปรียบเทียบการดูแลสุขภาพตนเองระหว่างผู้สูงอายุชายกับผู้สูงอายุหญิง พบว่า ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และในการเปรียบเทียบการดูแลสุขภาพตนเองระหว่างผู้สูงอายุที่มีอาชีพเดิมต่างกันพบว่า ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการดูแล สุขภาพตนเองของผู้สูงอายุควรมีการส่งเสริมและสนับสนุนตลอดจนมีการกระตุ้นการมีกิจกรรมทั้งจาก บุคคลภายในครอบครัว บุคลากรสาธารณสุขและชมรมผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการกลุ่ม รและให้ผู้สูงอายุได้พบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์จากเพื่อนสมาชิกด้วยกัน
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

