ค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลผู้ประสบอุบัติเหตุจราจรและภาระทางการเงินที่เป็นผลจากระบบและกลไกการเบิกจ่ายเงินกองทุนประกันผู้ประสบภัยจากรถ และกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในจังหวัดชลบุรี: ข้อเสนอเชิงนโยบาย

ผู้แต่ง

  • ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

คำสำคัญ:

รูปแบบการดูแลสุขภาพ, ความดันโลหิตสูง, พฤติกรรมการดูแลตนเอง, แรงจูงใจในการดูแลตนเอง

บทคัดย่อ

การวิจัยแบบกึ่งทดลองแบบสอบหลังนี้ เพื่อศึกษาระดับความดันโลหิต ภาวะแทรกซ้อน แรงจูงใจในการดูแลตนเอง พฤติกรรมการดูแลตนเอง ของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ในแผนกผู้ป่วยนอก โรง-พยาบาลพรหมบุรี จากการใช้รูปแบบการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง กลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้ป่วยความดันโลหิตสูง อายุ 35 ปีขึ้นไปผู้มารับบริการตามรูปแบบการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง แผนก ผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 60 คน เป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 30 คน กลุ่มควบคุมจำนวน 30 คน เครื่องมือในการทดลองเป็นรูปแบบการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง 4 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 การนัดผู้ป่วย ขั้นที่ 2 การตรวจคัดกรอง ขั้นที่ 3 กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ให้คำปรึกษา และเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามเรื่องแรงจูงใจในการดูแลตนเองเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและมีค่าสัมประสิทธิความเชื่อมั่นแบบครอนบาค (Cronbach) เท่ากับ 0.83 และแบบสอบถามการปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลตนเองเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและมีค่าสัมประสิทธิความเชื่อ มั่นแบบครอนบัค (Cronbach)เท่ากับ 0.76 ทดลองในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2550-31 ธันวาคม 2550 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและและการทดสอบค่าที (Independent Sample t-test)

พบว่าความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง หลังการใช้รูปแบบการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง พบว่า กลุ่มทดลองสามารถควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ ร้อยละ86.67 และมีภาวะแทรกซ้อน ร้อยละ 13.33 ดีกว่ากลุ่มควบคุม ที่ได้ร้อยละ 56.67 และมีภาวะแทรกซ้อนร้อยละ 23.33ในทำนองเดียวกันกลุ่มทดลองมีแรงจูงใจในระดับสูง (ค่าเฉลี่ย 2.62) และพฤติกรรมการดูแลตนเอง ระดับดี (ค่าเฉลี่ย 1.39) แต่กลุ่มควบคุมมีแรงจูงใจในระดับปานกลาง(ค่าเฉลี่ย 2.50) และพฤติกรรมในระดับพอใช้ (ค่าเฉลี่ย 1.29) ส่วนแรงจูงใจในการดูแลตนเองหลังการใช้รูปแบบการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 พฤติกรรมในการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง หลังการใช้รูปแบบการดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-12-20

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ