การวิเคราะห์สถานการณ์ผลกระทบทางสาธารณสุขของมหันตภัยสึนามิ ในระดับชาติและนานาชาติ
คำสำคัญ:
สีนามิ, มหันตภัย, ผลกระทบทางสาธารณสุขบทคัดย่อ
วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากเกาะสุมาตราของประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ 330 กิโลเมตร เมื่อเวลาประมาณ 07.59 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อให้เกิดความเสียหายตามแนวชายฝั่งของมหาสมุทรอินเดีย เขตพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกลุ่มประเทศเอเชียใต้ได้แก่ อินโดนีเซีย ไทย ศรีลังกา อินเดีย แอฟริกาตะวันออก มาเลเซีย มัลดิฟท์ พม่าและบังคลาเทศ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากมาย ประชาชนมากกว่า 300,000 คน ได้รับความเสียหาย สถานการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อการสาธารณสุข ทั้งภายในและภายนอกประเทศ กรณีประเทศไทยได้รับผลกระทบ 6 จังหวัด ด้วยเหตุดังกล่าว จึงศึกษาถึงบทเรียน จากเครือข่ายงานสาธารณสุข และกระบวนการปฏิบัติการในระดับพื้นที่ ระดับชาติ และความช่วยเหลือระหว่างประเทศที่จะสังเคราะห์บทเรียนครั้งนี้เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับผู้บริหารระดับสูงต่อการผลักดันแผนรองรับอุบัติภัย ระเบียบวิธีวิจัยใช้วิธีการเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลในช่วงเดือนมกราคม - พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ 6 จังหวัด ได้แก่ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง สตูล และตรัง เก็บข้อมูลในกลุ่มตัวอย่าง ที่ได้รับผลกระทบด้านสาธารณสุขในพื้นที่จำนวนที่ศึกษา 44 ราย โดยวิธีการสัมภาษณ์เจาะลึก
ผลการศึกษาพบว่ามีผู้ประสบภัยจมน้ำและจมโคลนบริเวณแนวชายฝั่งจากผลคลื่นยักษ์ถล่มบริเวณชายฝั่งเป็นเวลา 20-30 นาที และมีผู้ได้รับบาดเจ็บและตายเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยมีบาดแผลตาม ร่างกายหลายแห่ง เป็นลักษณะแผลเปิด และแผลฉีกขาดของเนื้อเยื้อ ตามลำตัวแขน ขา อก หน้าท้อง หลัง ทั่วร่างกาย ผู้ป่วยที่จมน้ำจะเสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาล ส่วนผู้ป่วยปอดบวมโดยส่วนใหญ่เกิดจากสำลักน้ำโคลน ทราย และการติดเชื้อ นอกจากนี้พบกระดูกหักบริเวณแขน ขา กระดูกซี่โครง ข้อมือและข้อเท้า การให้ความช่วยเหลือมีการตั้งหน่วยบริการสาธารณสุขเพื่อเป็นศูนย์ปฏิบัติการ การบริหารจัดการให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การวางแผน การช่วยชีวิต การจัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันโรคติดต่อที่อาจส่งผล ต่อสุขภาพได้ กลุ่มเสี่ยงต่อปัญหาทางสุขภาพจิตที่ต้องให้การดูแล คือ 1.) เหยื่อในเหตุการณ์ภัยพิบัติที่สูญเสียสมาชิกในครอบครัว และสูญเสียทรัพย์สิน 2.) ชาวต่างชาติที่รอดชีวิตที่ต้องเดินทางกลับประเทศของตน 3.) เด็กกำพร้าที่ครอบครัวเสียชีวิตทุกข์ทรมานเกิดภาวะซึมเศร้า 4.) กลุ่มผู้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย 5.) ลูกจ้างที่ทำงานในพื้นที่ประสบภัยและต้องตกงาน ขาดรายได้
บทเรียนจากภัยสึนามิในครั้งนี้ประเทศไทยต้องสร้างระบบการเฝ้าระวัง และการเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพและระบบข้อมูลข่าวสารสำหรับการเตือนภัยเบื้องต้น แผนการเตรียมความพร้อมต่อภัยพิบัติ ควรมีการเสริมสร้างพัฒนาความเข้มแข็ง การมีส่วนร่วมของท้องถิ่น โดยเฉพาะเครื่องมือในการป้องกันและการชันสูตรศพทางนิติเวชศาสตร์ ค่อนข้างมีอุปสรรคจากการขาดบุคลากที่มีความชำนาญ และการเสริมสร้างศักยภาพ การสร้างเครือข่ายความช่วยเหลือเคลื่อนที่เร็ว สิ่งที่มีคุณค่าและสำคัญที่สุด ของบทเรียนครั้งนี้คือ การบริหาร จัดการและความช่วยเหลือที่ 29 ประเทศมอบให้แก่ประเทศไทย
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

