ความผิดปรกติของเซลล์เยื่อบุปากมดลูก ในโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาอุบัติการของ abnormal Pap smear และการตรวจคัน ดูแลและรักษาเพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนการควบคุมและรักษามะเร็งปากมดลูกเป็นการศึกษาเชิงพรรณนา ชนิดเก็บข้อมูล ย้อนหลังจากผลการตรวจ Pap smear หน่วยเซลล์วิทยา โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช และข้อมูลจากเวช-ระเบียนผู้ป่วยใน ระหว่าง ตุลาคม 2546 ถึง กันยายน 2550 จำนวน 122,314 ราย ผลการศึกษา พบความ ผิดปรกติ 665 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.543 (95% CI 0.505, 0.581) อายุเฉลี่ย 43.01 ปี (SD 11.505) ความ ผิดปรกติมากที่สุดอยู่ในช่วงอายุ 35-49 ปี คือ 353 ราย (53.0%) พบ HSIL 373 ราย (56.1%) ผลการตรวจทาง colposcopy, ผลชิ้นเนื้อ จาก biopsy และ LEEP 409 ราย นำผลไปพิจารณาตัดมดลูกเมื่อมีข้อบ่งชี้ จำนวน 155 ราย พบว่าเป็นมะเร็งระยะลุกลามขั้นต้น 51 ราย คิดเป็นร้อยละ 7.67

ผลการตรวจคัดกรองที่ผิดปรกติกับกลุ่มอายุ พบว่าสตรีอายุ 35 ปีขึ้นไปเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ตรวจพบความผิดปรกติในระดับที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางทางสถิติ (=20.063, p=.000, 95%CI=1.612, 3.459) ผลการคัดกรองที่มีความผิดปรกติมากเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะพบผลชิ้นเนื้อผิดปรกติในระดับที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (=85.576, p=.000, 95%CI=4.360, 10.468)

เมื่อติดตามผู้ป่วยหลังตรวจพบ abnormal Pap smear ระยะ 6 เดือน พบว่ามาตรวจตามนัดร้อยละ 78.2 และระยะ 2 ปีร้อยละ 8.82 ผลการศึกษา ชี้ให้เห็นว่าการลดอุบัติการณ์ของมะเร็งปากมดลูก จะต้องมีการตรวจคัดกรองอย่างมีประสิทธิภาพในสตรีอายุตั้งแต่ 35ปีขึ้นไปโดยตรวจให้ครอบคลุมสตรีเป้าหมายในพื้นที่มีมาตรการ แนวทางการตรวจค้น รักษาในรายที่ผิดปรกติ หลักการในการรักษาทางคลินิก และมีระบบส่งต่อ ที่ได้ผล รวมทั้งการติดตามอย่างเข้มงวด