ปริมาณรังสีที่ใช้ในการตรวจสมองและช่องท้อง ด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์
คำสำคัญ:
ปริมาณรังสี, เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บทคัดย่อ
การใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างภาพรังสี สามารถมองเห็นภาพตัดขวางของอวัยวะต่างๆทั้ง 3 มิติ รวมทั้งสามารถเห็นเนื้อเยื่อได้ละเอียดมากกว่าการถ่ายภาพเอกชเรย์ทั่วไป จึงทำให้มีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้น แต่เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ให้ปริมาณรังสีสูง เมื่อเทียบกับเครื่องเอกซเรย์วินิจฉัยชนิดอื่น จึงต้องมีการควบคุมคุณภาพให้ภาพรังสีมีคุณภาพ และไม่ให้มีการใช้รังสีสูงเกินความจำเป็น ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคาม 2555 ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ประเมินระดับปริมาณรังสีที่ใช้ในการตรวจสมองและช่องท้องด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลในเขตจังหวัดตรัง กระบี่พังงา และภูเก็ต จำนวน 9 เครื่อง เพื่อเปรียบเทียบกับค่าอ้างอิง โดยใช้หุ่นจำลองศีรษะและลำตัว วัดค่าปริมาณรังสีในการสแกนแนวขวาง 1 สไลซ์ และคำนวณหาค่าปริมาณรังสี ตลอดช่วงความยาวของการสแกน หรือ ค่า dose length product (DLP) ตามวิธีของ Interna-tional Atomic Energy Agency ผลพบว่า ค่า DLP ในการตรวจสมองและช่องท้อง สำหรับผู้ป่วยที่มีน้ำหนัก 60+/-15 กิโลกรัม มีค่าอยู่ระหว่าง 416.9 - 1,528.8 และ 462.0 - 1,473.8 มิลลิเกรย์-เซนติเมตร ค่าควอไทล์ที่ 3 ของกลุ่มมีค่าเท่ากับ 1,160.7และ1,106.7 มิลลิเกรย์-เซนติเมตร ซึ่งสูงกว่าค่าอ้างอิงของยุโรป ที่มีค่าเท่ากับ 1,050.0 และ 780.0 มิลลิเกรย์ -เซนติเมตรเมื่อพิจารณาแต่ละเครื่อง พบค่า DLP ในการตรวจสมองและช่องท้องเกินค่าอ้างอิงของยุโรป 4 และ5 เครื่อง ตามลำดับสรุปได้ว่าการตรวจสมองและช่องท้องด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลในเขตพื้นที่จังหวัดตรัง กระบี พังงา และภูเก็ตใช้ค่าปริมาณรังสีสูงกว่าค่าอ้างอิงของยุโรป ซึ่งเจ้าหน้าที่รังสีต้องตรวจสอบและปรับค่าต่าง ๆในการตรวจใหม่เพื่อให้ได้ภาพรังสีที่มีคุณภาพและผู้ป่วยได้รับปริมาณรังสีน้อยลง
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.