สุขภาพตาของเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนย่านสุขุมวิท

ผู้แต่ง

  • วัฒนีย์ เย็นจิตร คณะทัศนมาตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • เฉลา พงษ์ประยูร ศูนย์จักษุอาร์เอส ยู
  • ศักดิ์ชัย วงษ์กิตติรักษ์ ภาควิชาจักษวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • ยุทธพงษ์ อิ่มสุวรรณ กองจักษุกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

คำสำคัญ:

เด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษา, โรงเรียนเอกชน, สายตาผิดปรกติ

บทคัดย่อ

มีรายงานเกี่ยวกับสุขภาพตาและความผิดปรกติของสาขดาของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาในโรงเรียน รัฐบาลในประเทศไทยหลายครั้ง แต่ยังไม่พบว่ามีการศึกษาในโรงเรียนเอกชนมาก่อน คณะทัศนมาตรศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต และศูนย์จักบุอาร์เอส ยู จึงศึกษาสุขภาพดาของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาของโรงเรียนเอกชนย่านสุขุมวิท ในกรุงเทพมหานคร การศึกษานี้เพื่อรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสุขภาพดาของเด็ก นักเรียนชั้นประถมศึกษาเฉพาะเพศหญิงในโรงเรียนเอกชนเปรียบเทียบกับเด็กในโรงเรียนรัฐบาล โดยศูนย์จักบุอาร์เอสยู และคณะทัศนมาตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตได้ตรวจวัดสายตาและคัดกรองโรคตาในเด็ก นักเรียนชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนเอกชนจำนวน 2 โรงเรียนที่ถนนสุขุมวิท เด็กนักเรียนทุกคนจะได้รับการ วัดสายตาสองครั้ง คือในขณะที่มีได้สวมแว่นดา และสวมแว่นตาพร้อมมองผ่านรูเข็ม วัดความผิดปรกติของรายตาด้วยเครื่องวัดสายตาอัตโนมัติ ตรวจตาภายนอกด้วยไฟฉาย และตรวจขัวประสาทตาและจอประสาทตาด้วย direct ophthalmoscope ถ้าพบความผิดปรกติจะส่งไปพบจักบุแพทย์คนเดิมที่เคยตรวจเด็กมาก่อนหรือจักษุแพทย์ด้านโรคตาของเด็กของศูนย์จักษุอาร์เอส ยู

การศึกษาพบว่ามีเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษามารับการตรวจคัดกรองทางตาทั้งหมด 1,780 คน จากโรงเรียน 2 แห่ง หรือร้อยละ 86.6 เป็นเด็กนักเรียนหญิงร้อยละ 98 มีระดับสายตาปรกติโดยไม่ใส่แว่นตา (20/ 20ถึง 20/30) จำนวน 1,334 คน (76.40%) ความผิดปรกติของการมองเห็นที่พบมากที่สุดคือ ระดับสายตาผิดปรกติโดยไม่ใส่แว่นตา 340 คน (19.479) เป็นชนิดสายตาสั้น 262 คน (15.01%) ซึ่งพบสูงสุดสายตาขาว 54 คน (3.09%) สายดาเอียง 24 คน(1.379) มีตาเหล่ 45 คน (2.57%) มีโรคดาซึ่งป้องกันและรักษาได้ 49 คน (2.81%) มีแว่นสายตาแล้ว 215 คน (68.049) มีแว่นแต่ไม่ค่อยได้ใช้ 42 คน (19.53%)ใส่แว่นถูกต้อง (มองเห็นดี) 128 คน (68.82 %) และใส่แว่นมานาน 1 - 7 ปี เฉลี่ย 2.38 ปี มีเด็กจำนวน 10คน (0.57%) เป็นโรคตาขี้เกียจ

สรุปว่าเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนเอกชนมีความผิดปรกติของสายตาและมีโรคตาไม่ต่างจากเด็กในโรงเรียนรัฐบาล เมื่อเปรียบเทียบการมีแว่นตาและการเข้าถึงบริการวัดสายตาพบว่าเด็กในโรงเรียนเอกชนเข้าถึงมากกว่าเด็กในโรงเรียนรัฐบาล แต่สถิติการนำแว่นตามาใช้พบว่าไม่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงมีความจำเป็นในการให้สุขศึกษาแก่นักเรียน ครู และผู้ปกครองเรื่องสายตาผิดปรกติ ความจำเป็นของการใช้แว่นตา การดูแลโรคตา และการป้องกันสายตาพิการเพราะยังพบว่ามีเด็กเป็นตาขี้เกียจซึ่งควรจะป้องกันได้

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-12-14

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้