ลักษณะทางคลินิก ผลการรักษา และปัจจัยที่มี ผลต่อการขาดการรักษาของผู้ป่วยโรคเรื้อนในโรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก ปี 2536-2550

ผู้แต่ง

  • จินตนา อุทัยศิลป์ กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลแม่สอด ตาก

คำสำคัญ:

โรคเรื้อน, ความพิการ, การขาดการรักษา, พื้นที่ชายแดน

บทคัดย่อ

รายงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะทางคลินิก ชนิดของโรค ความรุนแรง ความพิการ ผลการรักษา และปัจจัยที่มีผลต่อการขาดการรักษาของผัปวยโรคเรือน ทีมารับการรักษาในโรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก ระหว่างปีงบประมาณ 2536-2550 โดยเปรียบเทียบระหว่างผู้ป่วยชาวไทยกับชาวพม่า เพื่อนำผลการศึกษามาใช้ในการวางแผน เพื่อลดปัญหาโรคเรื่อนในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ดำเนินการศึกษาโดยรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยโรคเรือน จากทะเบียนผู้ป่วยโรคเรื้อน เวชระเบียนผู้ป่วย และบัตรบันทึกผู้ป่วยโรคเรือน จากการศึกษา พบผีปวยรวม 186 ราย เป็นผู้ป่วยชาวไทย 53 ราย (28.5%) และชาวพม่า 133 ราย (71.5%) โดยผัปวย ชาวไทยมีแนวโน้มลดลงเหลือปีละ 1-2 ราย ในช่วงปี 2544-2548 และไม่พบผู้ป่วยเพิ่มอีกหลังจากนั้น ส่วน ผู้ป่วยชาวพม่าได้รับการขึ้นทะเบียนรักษาปีละ 5-17 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ซึ่งใกล้เคียงกันทั้งชาวไทย (83.0%) และชาวพม่า (80.5%) ผู้ป่วยชาวไทยร้อยละ 50.0 มีอายุ 45 ปีขึ้นไป เปรียบเทียบกับร้อยละ 23.3 ในชาวพม่า ซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผู้ป่วยชาวไทยร้อยละ 5.7 และชาวพม่าร้อยละ 6.8ให้ประวัติว่าเคยมีญาติป่วยเป็นโรคเรือน สำหรับรอยโรคทางผิวหนังที่พบบ่อยในผู้ป่วย พบว่าผู้ป่วยชาวไทย ร้อยละ 34.0 และชาวพม่าร้อยละ 34.6 มีผืนนุนแดง ส่วนผืนวงสีขาวพบได้รองลงไป คือ ร้อยละ 30.2 ในชาวไทย และร้อยละ 33.8 ในชาวพม่า ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและพม่าส่วนใหญ่ มีอาการชา สีของผิวหนังจางหรือเข้มกว่าปรกติ และลักษณะของผิวหนังแห้งเหงื่อไม่ออกหรือเป็นแบบอิ่มฉ่ำเป็นมันเลื่อม สำหรับแผลนั้นพบในผู้ป่วยชาวพม่ามากกว่าชาวไทยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผู้ป่วยประมาณหนึ่งในสามมีภาวะโรคเห่อตำแหน่งของเส้นประสาทที่พบผิดปรกติ (โต/เจ็บ) มากที่สุดได้แก่ บริเวณข้อศอก ซึ่งพบร้อยละ 47.2 ในชาวไทย และร้อยละ 48.1 ในชาวพม่า สำหรับความพิการระดับ 2 ซึ่งพบได้บ่อยสุดที่มือ โดยพบร้อยละ 24.5ในผู้ป่วยชาวไทย และร้อยละ 26.3 ในชาวพม่า ผู้ป่วยชาวพม่าพบเป็นโรคเรื้อนชนิดติดต่อ (lepromatous)มากกว่าชาวไทยอยู่บ้าง ส่วนผลการรักษาพบว่า ผู้ป่วยชาวไทยส่วนใหญ่รักษาหาย และมีเพียง 1 ราย (1.9%) ที่ขาดยาระหว่างการรักษา เปรียบเทียบกับร้อยละ 41.4 ในผู้ป่วยชาวพม่าที่ขาดการรักษา ซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จากการศึกษาไม่พบปัจจัยที่มีความความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับการขาดการรักษาของผู้ป่วยชาวพม่า เนื่องจากในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่ามีประชากรชาวพม่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และยังพบความชุกของโรคเรือนรวมทั้งการขาดการรักษาอยู่ในระดับที่สูง ดังนั้นการควบคุมโรคเรือนในชาวพม่าอพยพจึงมีความจำเป็นเพื่อลดการแพร่โรคสู่คนไทย

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-12-18

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ