ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตนเกี่ยวกับ การป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าของประชาชนที่มารับบริการทางสัตวแพทย์ที่กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ

โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่อันตราย และเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญในประเทศที่กำลัง พัฒนาทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตนที่ถูกต้องและเหมาะสมมีความสำคัญมาก ในการป้ องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อสำรวจความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตน ในการป้ องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า และศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่สัมพันธ์กับการปฏิบัติตนในการป้ องกันและควบคุม โรคพิษสุนัขบ้าของประชาชนทีมารับบริการทางสัตวแพทย์ ที ่ กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนที่มารับบริการ จำนวน 1,034 ตัวอย่าง วิเคราะห์ข้อมูล ด้วยสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ปัจจัยทางประชากรศาสตร์ที่สัมพันธ์กับการปฏิบัติ ตนในการป้ องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าด้วยสถิติไคสแควร์ กำหนดระดับนัยสำคัญที่ 0.05 ผลการศึกษาด้าน ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า พบว่าประชาชนกลุ่มศึกษามีความรู้ ความเข้าใจอยู่ในระดับสูง คิดเป็นร้อย ละ 60.0 ด้านทัศนคติเกี่ยวกับการป้ องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า พบว่า มีทัศนคติอยู่ในระดับดี คิดเป็นร้อยละ 71.2 ด้านการปฏิบัติตนเกี่ยวกับการป้ องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า พบว่ามีระดับการปฏิบัติตนอยู่ในระดับดี คิด เป็นร้อยละ 81.7 ส่วนการปฏิบัติตนในการป้ องกันโรคพิษสุนัขบ้า สัมพันธ์กันกับความรู้และทัศนคติที่ดี มีปัจจัยทาง ประชากรศาสตร์ เช่น เพศ อายุ อาชีพ ระดับการศึกษา รายได้ ที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตนอย่างมีนัยสำคัญ จากการศึกษาปัจจัยต่างๆ กับผลการศึกษาทีได้ สอดคล้องกันตามทฤษฎี ่ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง ความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม (KAP) แต่ก็ควรมีการให้ความรู้ เน้นการประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจและทัศนคติเชิงบวกเกี่ยว กับโรคพิษสุนัขบ้า ที่ถูกต้องให้มากและเข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อให้การปฏิบัติตนของประชาชนในการป้ องกันโรคพิษสุนัข บ้าดีมากยิ่งขึ้นไปอีก และให้กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าทั้งคนและสัตว์ในที่สุด