ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีผลต่อการกินยาตรงเวลาและระดับภูมิคุ้มกัน CD4 ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์

บทคัดย่อ

การวิจัยสำรวจภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล การกินยาตรงเวลาและการเปลี่ยนแปลงระดับ CD4 และหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล และการเปิดเผยสถานการณ์ติดเชื้อเอช-ไอวี ที่มีผลต่อการกินยาตรงเวลาและระดับภูมิคุ้มกัน CD& ในผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่มารับการ รักษาด้วยยาต้านไวรัส ณ แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลปากช่องนานา อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 1 พฤษภาคม 2550-31 มกราคม 2551 จำนวน 241 คน โดยใช้แบบสำรวจปัจจัยส่วนบุคคล การกินยาตรงเวลาและวิเคราะห์ผลการเปลี่ยนแปลงระดับภูมิคุ้มกัน CD4 ที่เก็บในโปรแกรม NAPHA โดยใช้สถิติร้อยละกับปัจจัยส่วนบุคคล การกินยาตรงเวลาและการเปลี่ยนแปลงระดับ CD4 และค่าสัมประสิทธิ์สห สัมพันธ์ของเพียร์สัน (f) หาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล และการเปิดเผยสถานการณ์ติดเชื้อเอช-ไอวี ที่มีผลต่อการกินยาตรงเวลาและระดับภูมิคุ้มกัน CD4 ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่มารับยาต้านไวรัสจำนวน 241 คน พบ เพศหญิง ร้อยละ 57.26 เปิดเผยตัว ร้อยละ 40.25 ส่วนการกินยาตรงเวลามากกว่า ร้อยละ 95 พบร้อยละ 48.55 การเปลี่ยนแปลงระดับภูมิคุ้มกัน CD4 มากกว่าร้อยละ 30 ร้อยละ 53.52 ความ สัมพันธ์ของปัจจัยส่วนบุคคล เพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา อาชีพ การพักอาศัยกับครอบครัวระยะเวลาการกินยาต้านไวรัส พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์ทางสถิติ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดเผยสถานะการติดเชื้อเอชไอวี กับการกินยาตรงเวลาพบว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.01)และยังสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงระดับภูมิคุ้มกัน CD4 ซึ่งพบว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.01)

ในการจัดบริการควรให้มีการฝึกทักษะการกินยาตรงเวลา รวมทั้งคำนึงถึงประโยชน์ของการเปิดเผยสถานะของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งสามารถส่งผลทำให้ผู้ป่วยกินยาตรงเวลาและมีการเปลี่ยนแปลงระดับภูมิคุ้มกัน CD4 ที่ดีขึ้น