ผลการรักษาผู้ป่วยเด็กติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับยา ต้านไวรัส แบบ HAART โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี

บทคัดย่อ

โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช เริ่มมีการใช้ยาด้านไวรัสในผู้ป่วยเด็ก แบบ HAART มาตั้งแต่ พ.ศ. 2546 ส่งผลให้การเจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อฉวยโอกาสและอัตราตายลดลง การศึกษาแบบย้อนหลังครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายคุณลักษณะทางประชากร ลักษณะการติดเชื้อเอชไอวี สูตรยาด้านไวรัสที่ได้รับ และภาวะการเจริญเดิบโคของผู้ป่วยเด็ก รวมทั้งเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยภาวะการเจริญเดิบโตของผู้ป่วยเด็ก ได้แก่ มาตรฐานน้ำหนักเทียบกับอายุ (WAZ) ส่วนสูงเทียบกับอายุ (HAZ) คัชนีมวลกายเทียบกับอายุ (BMI-2) และค่าเฉลี่ยเซลล์ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยเด็ก ได้แก่ CD4% CD4 count ระหว่างก่อนการรักษา หลังการรักษา 6 เดือน และหลังการรักษา 12 เดือน ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือผู้ป่วยเด็กที่ได้รับยาด้านไวรัสเอดส์แบบ HAART จำนวน 55 คน เก็บรวมรวมข้อมูลจากเวชระเบียนผู้ป่วยนอก เวชระเบียนผู้ป่วยใน และแบบบันทึกการดูแลผู้ป่วยเด็กติดเชื้อเอชไอวี ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2546 - ธันวาคม 2551 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ ค่าเลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด และ repeated measures ANOVA

การศึกษา พบว่า ผู้ป่วยเด็กติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับยาด้านไวรัส จำนวน 55 ราย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.73 Tu n huưn r0 ị ng nh 2 đà 20 n Tha n v 12 n nm 21 an n a) 3 ใน 4 (78.18%) ได้รับยาด้านไวรัสขนานแรก ภาวะการเจริญเติบโตของผู้ป่วยพบว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานของ น้ำหนักเมื่อเทียบกับอายุ ส่วนสูงเทียบกับอายุ และคัชนีมวลกายเทียบกับอายุ ก่อนรักษา เท่ากับ -2.23, - 1.86และ -1.43 ตามลำดับ ข้อมูลด้านเซลล์ภูมิคุ้มกัน พบว่า ค่าเฉลี่ยมาตรฐานของ CD4 % และ CD4 Count ก่อนการรักษาเท่ากับร้อยละ 6.99 และ 163.13 cel/mm* ตามลำดับ การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย มาตรฐานน้ำหนักเทียบกับอายุ (WAZ), ส่วนสูงเทียบกับอายุ (HAZ), คัชนีมวลกายเทียบกับอายุ (BMI - Z), CD4 % และ CD4 count ก่อนการรักษา หลังการรักษา 6 เดือน และ 12 เดือน พบว่า มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ในค่าตัวแปร WAZ, BMI, CD4 % และ CD4 count ผลการวิจัยสามารถนำไปใช้ติดตามการดูแล รักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะการเฝ้าระวังการตื้อยาด้านไวรัส การกินยาอย่างถูกต้องครงเวลา (adherence)

โดยสรุป การรักษาแบบ HAART ในผู้ป่วยเด็กติดเชื้อเอชไอวี สามารถเปลี่ยนแปลงการเจริญเติบโต และภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ในลักษณะที่ดีขึ้น หลังการรักษา 6 เดือน