ปริมาณการบริโภคโซเดียมของประชากรไทยจากการประเมินปริมาณโซเดียมในปัสสาวะ 24 ชั่วโมง: การศึกษาแบบภาคตัดขวาง

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประมาณการค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมต่อวันของประชากรอายุ 20-69 ปี ด้วย วิธีการประเมินปริมาณโซเดียมในปัสสาวะ 24 ชั่วโมง ทำการสำรวจตัวอย่าง ใน 4 จังหวัด คือ จังหวัดศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และพะเยา สุ่มเลือกตัวอย่างแบบ stratified two-stage cluster sampling ตัวอย่างสมบูรณ์สำหรับวิเคราะห์ผล 1,046 ราย จัดทำค่าถ่วงน้ำหนักประชากรด้วยวิธี design weight และปรับความครบถ้วนด้วยวิธี post-stratification ผลการศึกษาพบจังหวัดที่ทำการศึกษามีการบริโภคโซเดียมสูงกว่า 2,000 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณทีองค์การอนามัย ่ โลกแนะนำว่าเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายต่อวัน 1.4-2.0 เท่า ประชากรอายุ 20-69 ปี ประมาณร้อยละ 70.8- 89.9 บริโภคโซเดียมมากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เมื่อประมาณการค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมต่อวันรวมทั้ง 4 จังหวัดเท่ากับ 3,236.8 มิลลิกรัม (95%CI=3,074.5-3,399.1) เพศชายมีค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมเท่ากับ 3,338 มิลลิกรัม (95%CI=3,081.9-3,596.0) สูงกว่าเพศหญิงคือ 3,140 มิลลิกรัม (95%CI=3,000.0-3,280.5) อายุ ที่สูงขึ้นพบมีการบริโภคโซเดียมลดลง แต่สำหรับค่าดัชนีมวลกายสูงขึ้นพบมีค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมสูงขึ้น เมื่อ เปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยการบริโภคโซเดียมต่อวันระหว่างจังหวัด ระดับดัชนีมวลกาย กลุ่มอายุ ระดับการ ศึกษาและระดับรายได้ต่อเดือน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ผลการวิเคราะห์ปัจจัยทำนาย แนวโน้มหรือโอกาสการเกิดการบริโภคโซเดียมสูงพบดัชนีมวลกายเท่ากับหรือมากกว่า 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตร (AOR=10.08, 95%CI=1.79-56.77, p<0.017) และพื้นที่จังหวัดพะเยา (AOR=3.70 95%CI=1.33-10.31 p<0.014) มีความเสี่ยงที่จะบริโภคโซเดียมมากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนี้การ ศึกษาครั้งนี้พบกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานมีการบริโภคโซเดียมสูง จึงเป็นกลุ่มที่ต้องมีการเฝ้ าระวังรวมทั้งควรมีมาตรการ ลดการบริโภคให้ครอบคลุมทั้งวัยเด็กและวัยทำงาน