ภาวะท่อไตขวาอุดตันแต่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน: รายงานผู้ป่วย

บทคัดย่อ

สาเหตุที่พบบ่อยในผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องน้อยด้านขวาล่างกะทันหัน อาจจะเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันสายไตขวาอุดตัน และโรคของอวัยวะภายในของสตรีก็ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องวินิจฉัยแยกโรคให้ได้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่เหมาะสมและรวดเร็ว มิฉะนั้นแล้ว อาจจะนำไปสู่ผลการรักษาที่ไม่คาดได้ ดังที่พบในผู้ป่วยรายนี้ซึ่งเป็นหญิงไทย อายุ 55 ปี มีอาการปวดท้องน้อยด้านขวาตอนล่าง 1 วัน ไม่มีไข้ คลื่นไส้อาเจียนหลายครั้ง ตรวจร่างกายบริเวณหน้าท้องพบว่าท้องตึง กดเจ็บทั่ว ๆ ไป เจ็บมากที่จุด McBurney พบมี rebound tenderness และ Rovsing's sign ตรวจเลือดพบว่า Hct 33.7%, WBC 17,700/มม³, platelet 480,000/มม³ N 91%, L 8%, Creatinine 2.1 mg% ในขณะที่ผลตรวจปัสสาวะพบเม็ดเลือดขาว 50-100/HPF เม็ดเลือดแดง 3-5/HPF ให้การวินิจฉัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน และให้การรักษาด้วยการผ่าไส้ติ่งออกอย่างเร่งด่วนภายใต้การวางยาสลบ ร่วมกับการให้ cefoxitin และ metronidazole เข้าเส้นเลือดดำ ผลการตรวจจุลพยาธิวิทยาของไส้ติ่งที่ตัดออกมาพบว่า มีการอักเสบเพียงเล็กน้อย ผู้ป่วยดูตอบสนองต่อการรักษาค่อนข้างดี แต่ก็ต้องกลับมาโรงพยาบาลอีกครั้งใน 2 สัปดาห์ด้วยอาการของไข้กะทันทัน ร่วมกับ septicemia ตรวจเลือดพบ WBC 12,800/mm³, N 76%, L 13% ปัสสาวะมี WBC 10-20/HPF, RBC 1-2/HIPF ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องท้องพบว่า ท่อไตด้านขวาและไตขวาคั่งน้ำ ให้การวินิจฉัยว่าเป็นการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะตอนบน และมีการติดเชื้อในกระแสเลือดด้วย ให้การรักษาด้วยการฉีด imipenem และ metron-idazole เข้าเส้น ผลเพาะเชื้อในเลือดและในปัสสาวะไม่ขึ้น ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษา และถึงแก่กรรมภายใน 3 วัน โดยที่ยังไม่ได้รับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขการคั่งน้ำของสายไตและไต เชื่อว่าถ้าผู้ป่วยรายนี้ได้รับการตรวจเอกซเรย์-คอมพิวเตอร์ทางช่องท้องตั้งแต่ครั้งแรก น่าจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมกว่านี้