การสนับสนุนการจัดการตนเองผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลสนาม อ.ยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม

ผู้แต่ง

  • กาญจนา จันทะนุย โรงพยาบาลยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
  • ภิรญา พินิจกลาง โรงพยาบาลยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
  • พิศสมัย ไลออน โรงพยาบาลยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
  • จันทร์เพ็ญ ทรงงาม โรงพยาบาลยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม

คำสำคัญ:

การจัดการตนเอง, โรคโควิด-19, โรงพยาบาลสนาม

บทคัดย่อ

การศึกษานี้้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบและประเมินผลรููปแบบการสนับสนุนการจัดการตนเองผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลสนาม ใช้แนวคิดการสนับสนุนการจัดการตนเอง ระยะเวลาวิจัยเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564 - มีนาคม พ.ศ. 2565 ผู้มีส่วนร่วมในการวิจัยประกอบด้วย (1) กลุ่มที่่ร่วมพัฒนารูปแบบการสนับสนุนการจัดการตนเอง ได้แก่ พยาบาลวิชาชีพและทีมสหวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในรพ.สนามพยาบาลสุขภาพจิต พยาบาลวิชาชีพกลุ่มงานบริการปฐมภูมิ ตัวแทนองค์กรแพทย์ เภสัชกร พยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ (ICN) รวม 33 คน ตัวแทนผู้ป่วยโรคโควิด-19 และญาติ ตัวแทนผู้ป่วยและจิตอาสาในโรงพยาบาลสนาม รวม25 คน และ (2) กลุ่ม-ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในช่วงเวลารักษา เดือนมกราคม – เมษายน พ.ศ. 2565 รวม 432 ราย ขั้นตอนการวิจัย วิเคราะห์สถานการณ์ปัญหา นำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนารูปแบบการสนับสนุนการจัดการตนเอง หลังจากนั้นดำเนินการวางแผน ลงมือปฏิบัติสังเกต และสะท้อนเสนอแนะเพื่อวางแผน แก้ไขปัญหาต่อไปพร้อมทั้งประเมินผล เครื่องมือการวิจัย (1) แนวคำถามสำหรับการสัมภาษณ์ สนทนากลุ่ม (2) แบบประเมิน Google form ซึ่งการประมวลผลจะเชื่อมโยงกับ Line notify (3) แบบบันทึกการจัดการดูแลกรณีเมื่อพบ early warning sign (4) แบบรายงานอุบัติการณ์ทรุดลงส่งต่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติเชิงพรรณนา คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า รูป แบบการสนับสนุนการจัดการตนเอง ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่่เหมาะสมกับบริบท คือ (1) กำหนดบุคลากรผู้รับผิดชอบหลักในการประเมินผู้ป่วยรับใหม่่ (2) จัดทำแบบประเมิน Google form มีการประมวลผลจะเชื่อมโยงกับ Line notify (ไลน์กลุ่มเจ้าหน้าที่) เพื่อเพิ่มความไวในการตอบสนองการดูแล (3) จัดทำชุดความรู้แบบ info-graphic ได้แก่ ความรู้เรื่องโรค ตารางกิจวัตรประจำวัน การดูแลด้านจิตใจ ทำการบริหารปอด การรับประทานยา อาการผิดปกติที่่ต้องเฝ้าระวัง การจัดการขยะ คลิปวิดิโอการวัดออกซิเจนและสัญญาณชีพ (4) สร้างผู้ป่วยจิตอาสา (ผู้ใหญ่บ้าน) โรงพยาบาลสนามให้สามารถถ่ายทอดความรู้ประสบารณ์เพื่อส่งเสริมการจัดการตนเอง และ (5) ให้ความรู้หลากหลายช่องทาง เช่น เสียงตามสาย ไลน์กลุ่มจากการดำเนินงาน พบว่า ผู้ป่วยที่่มีภาวะเครียด ซึมเศร้า ได้รับการให้คำปรึกษาได้รับคำแนะนำตรงตามที่่ต้องการ ร้อยละ 100.0 ภายหลังการได้รับความรู้เพื่อสนับสนุนการจัดการตนเองผู้ป่วยทำให้มีพฤติกรรมการดูแลตนเองอยู่ในระดับมาก ผู้ป่วยทุกรายที่มีอาการเข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังได้รับการจัดการตามแนวทางการดูแลรักษา (ร้อยละ 100.0) และรายที่ได้รับการรักษาครบตามแนวทางที่กำหนดได้รับการจำหน่ายกลับบ้าน (ร้อยละ 99.07) ผู้ป่วยทรุดลงส่งต่อ จำนวน 4 ราย (ร้อยละ 0.93) ไม่มีผู้ป่วยที่กลับเข้ารักษาซ้ำโดยไม่ได้วางแผน

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19. สถานการณ์โควิด-19 ในบุคลากรทางการแพทย์ในการแถลงข่าวของ ศบค. วันที่ 9 เมษายน 2564 [อินเทอร์เน็ต]. 2564 [สืบค้นเมื่อ 14 พ.ค. 2564]. แหล่งข้อมูล: https://www.youtube.com/watch?v=kTYsmceJhgY

สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล. แนวปฏิบัติเพื่อการบริหารจัดการโรงพยาบาลเฉพาะกิจ COVID-19 ฉบับวันที่่ 1 พฤษภาคม

นนทบุรี: สถาบันรับรองคุณภาพสถาน พยาบาล; 2563.

กระทรวงสาธารณสุข. หลักการบริหารจัดการสถานพยาบาล ทางระบาดวิทยา 4 ด้าน ในการเตรียมความพร้อมของสถานพยาบาลรองรับ COVID-19. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข; 2563.

กองการพยาบาล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. รูปแบบการพยาบาลในการสร้างเสริมการจัดการสุขภาพตนเองของกลุ่มผู้ป่วยที่่ต้องการการดูแลแบบเรื้อรังและผู้ดูแล. นนทบุรี: กองการพยาบาล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข; 2564.

กองการพยาบาล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. รูปแบบการพยาบาลในการสร้างเสริมการจัดการสุขภาพตนเองของประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรังและผู้ดูแล. นนทบุรี: กองการพยาบาล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข; 2564.

Glasgow RE, Davis CL, Funnell MM, Beck A. Implementing practical. interventions to support chronic illness self-management. Joint Commission Journal on Quality and Safety 2003;11(3);563-74.

Kemmis S, McTaggart R. The action research planner. 3rd ed. Victoria: Deakin University; 1988.

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการจัดตั้งโรงยาบาลสนาม(กรณีมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวงกว้าง). นนทบุรี: กรมการแพทย์; 2564.

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางเวชปฏิบัติการ วินิจฉัยดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง 28 มกราคม2564. นนทบุรี: กรมการแพทย์; 2564.

กรมสุขภาพจิต. แบบคัดกรองโรคซึมเศร้า 2Q และ 9Q [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 14 พ.ค. 2564]. แหล่งข้อมูล: https://dmh.go.th/test/download/files/2Q%209Q%20 8Q%20(1).pdf

เกษราวัลณ์ นิลวรางกูร. การวิจัยเชิงปฏิบัติการสำหรับวิชาชีพการพยาบาล. ขอนแก่น: คลังนานาวิทยา; 2558.

บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น; 2553.

สุทัศนา ลิขิตกุลธนพร. การพัฒนารูปแบบสนับสนุนการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมการจัดการสุขภาพตนเองในภาวะอาการหลงเหลือของผู้ป่วยโควิด-19 หลังรักษาหาย. วารสารกรมการแพทย์ 2564;47(3);104-12.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-30

วิธีการอ้างอิง