ประสิทธิผลของโครงการอนุรักษ์การได้ยินในโรงพยาบาลน่าน
คำสำคัญ:
ภาวะประสาทหูเสื่อมจากเสียงดัง, โครงการอนุรักษ์การได้ยิน, เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบทคัดย่อ
ผู้ที่ทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังย่อมมีโอกาสเสี่ยงต่อภาวะประสาทหูเสื่อมจากเสียงดังได้ ใน โรงพยาบาลน่านมีบางหน่วยงานที่มีสภาพแวดล้อมเสียงดังเกินมาตรฐาน ดังนั้นทางแผนกหู ค่อ จมูก และ งานอาชีวอนามัย จึงได้จัดทำโครงการอนุรักษ์การได้ยินขึ้นและได้ศึกษาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดระดับเสียงในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีเสียงดังแล้วศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์ต่อการมีภาวะประสาทหูเสื่อมจากเสียงดังและประเมินประสิทธิผลของโครงการอนุรักษ์การได้ยินในโรงพยาบาลน่าน การศึกษาเชิงพรรณนาแบบตัดขวางณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่งนี้เปรียบเทียบผลการตรวงการได้ยินของเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยงใน พ.ศ. 2548 และ พ.ศ. 2551 จำนวน 57 ราย
จากการสำรวจและวัดระดับเสียงดังในโรงพยาบาลน่าน ทั้งหมด 12 บริเวณ พบ 3 บริเวณที่มีระดับเสียงดังเกินมาตรฐาน คือ บริเวณเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ห้องตรวงผู้ป่วยนอกศัลยกรรมกระดูก และงาน วิศวกรรมซ่อมบำรุง ซึ่งได้แก่ งานสนาม ช่างเชื่อม ช่างไม้ และช่างไฟฟ้า ด้านความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัย ต่างๆ พบว่าเพศชาย การสูบบุหรี่และงานวิศวกรรมซ่อมบำรุงมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับภาวะประสาทหูเสื่อมจากเสียงดัง จากการศึกษาพบว่ามีเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยงทั้งหมด 57 ราย ความชุกของภาวะประสาทหูเสื่อมจากเสียงดังเปรียบเทียบข้อนหลัง 3 ปี พบว่า ความชุกของ พ.ศ. 2551 คิดเป็นร้อยละ 57.9 เพิ่ม ขึ้นจากร้อยละ 28.0 ใน พ.ศ. 2548 โดยมีความชุกของภาวะประสาทหูเสื่อมสูงสุดในงานวิศวกรรมซ่อมบำรุง ด้านการประเมินผลโครงการอนุรักษ์การได้ยินในโรงพยาบาลน่านพบว่าประสบผลสำเร็จร้อยละ 61.4 และยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรตามเกณฑ์ที่โรงพยาบาลตั้งไว้ที่ร้อยละ 80 ขึ้นไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ขาดความตระหนักถึงอันตรายต่อเสียงดัง ยังมีอุปกรณ์ป้องกันเสียงไม่เพียงพอ และยังไม่มีพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงเป็นประจำ จึงควรตรวจการได้ยินให้ครอบคลุมและสม่ำเสมอทุกปี ตลอดจนจัดอบรมให้ความรู้จัดหาอุปกรณ์ให้เพียงพอ ติดตามและบันทึกการใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะประสาทหูเสื่อมจากเสียงดังลง
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

