รูปแบบการพัฒนาระบบการคัดกรองสุขภาพประชาชน จังหวัดปราจีนบุรี
คำสำคัญ:
การคัดกรองสุขภาพเพื่อจัดบริการให้ผู้เข้าใกล้การเป็นโรค, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, ภาวะอ้วนบทคัดย่อ
โรคเบาหวานและความดันโลหิดสูงมีความสำคัญมากเป็นลำดับต้น ๆ ของประเทศไทย การป้องกันโรคโดยการค้นหาผู้ที่เข้าใกล้จะเป็น และส่งเสริมการปรับพฤติกรรมสุขภาพสำหรับประชาชนเป็นสิ่งจำเป็น การ ศึกษาเชิงปฏิบัติการ (action research) นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการคัดกรองสุขภาพประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่ครอบคลุมในมิติการดูแลส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันก่อนเป็นโรค ดำเนินการ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2550 ถึงเดือนธันวาคม 2551 การศึกษาแบ่งเป็น 3 ระยะคือ การเตรียมการ แบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การรวบรวม ศึกษาวิเคราะห์นโยบายการคัดกรองสุขภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยศึกษาจากเอกสาร ขั้นตอนที่ 2 การสร้างเครื่องมือการคัดกรองสุขภาพ ระยะที่ 2 การดำเนินการ นำเครื่องมือคัดกรองสุขภาพใช้ในสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง และระยะที่ 3 ประเมินผลลัพธ์ที่ได้ ดังนี้ 1) ความครอบคลุมผลการดำเนินงานการคัดกรองสุขภาพ เก็บรวบรวบข้อมูลจากแบบรายงาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ 2) สถานการณ์การเข้าใกล้การเป็นโรคของโรคเบาหวาน และโรคความคันโลหิตสูงเก็บรวบรวมข้อมูลจากฐานข้อมูล TBELDB ในโปรแกรม HCIS วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อย-ละ 3) ผลการดำเนิ้นงานการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพประชาชน เก็บรวบรวบข้อมูลจากแบบรายงาน วิเคราะห์ โดยการสับภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลตามเนื้อความ
การศึกษา พบว่า ระยะที่ 1 การเตรียมการ นโยบายการคัดกรองสุขภาพมีทั้งจากกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและสร้างเครื่องมือคัดกรองสุขภาพใน 4 เรื่อง ได้แก่ ระดับ น้ำตาลในเลือด ความดันโลหิด รอบเอว และคัชนีมวลกาย โดยจำแนกกลุ่มผลการตรวจออกเป็น ขาว (ปรกติ)เทา (เริ่มผิดปรกติ) คำ (เข้าใกล้การเป็นโรค) ระยะที่ 2 นำเครื่องมือ คัดกรองสุขภาพใช้ในสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ระยะที่ 3 ผลลัพธ์การดำเนินงาน ดังนี้ 1) ประชาชนได้รับการคัดกรองสุขภาพโรคเบาหวาน ร้อยละ 72.2 โรคความด้นโลหิตสูง ร้อยละ 78.7 2) สถานการณ์การเข้าใกล้การเป็นโรค โรคเบาหวาน ปี 2549-2551 ตามลำดับ พบว่า กลุ่มขาว มีแนวโน้มลดลงและเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 64.6 เป็นร้อยละ 62.1 และร้อยละ 67.0 กลุ่มเทา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและลดลงจากร้อยละ 30.1 เป็นร้อยละ 33.3 และร้อยละ 28.2 กลุ่มคำมีแนวโน้มลดลงและเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.3 เป็นร้อยละ 4.6 และร้อยละ 4.9 ส่วนโรคความค้นโลหิตสูง ปี 2549 - 2551 พบว่า กลุ่มขาว มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 63.5 เป็นร้อยละ 66.8 และร้อยละ 67.9 กลุ่มเทามีแนวโน้มลดลงจากร้อยละ 32.3 เป็นร้อยละ 29.7 และร้อยละ 28.7 กลุ่มคำมีแนวโน้มลดลงจาก ร้อยละ 4.2 เป็นร้อยละ 3.5 และร้อยละ 3.4 3) ประชาชนที่เข้าใกล้การเป็นโรคได้รับบริการ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ร้อยละ 52.5 และ 4) ความพึงพอใจต่อเครื่องมือคัดกรองสุขภาพ พบว่ามีประโยชน์ต่อ ผู้รับบริการ ผู้รับบริการจำผลการตรวจของตนเองได้
จากผลการศึกษามีข้อเสนอแนะ ดังนี้ ควรส่งเสริม พัฒนา การจัดบริการสร้างสุขภาพกับกลุ่มที่เข้าใกล้การเป็นโรค จัดระบบประเมินพฤติกรรมสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และส่งเสริมพัฒนาการมี ส่วนร่วมของประชาชน/อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน / องค์กรปกครองท้องถิ่นและทุกภาคส่วนในการสร้างสุขภาพกับกลุ่มที่เข้าใกล้การเป็นโรค
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

