ผลการรักษากระดูกฟีเมอร์ส่วนกลางหักในเด็กอายุระหว่าง 2-7 ปี ในโรงพยาบาลแพร่
คำสำคัญ:
กระดูกฟีเมอร์หักส่วนกลาง, เฝือกดามกระดูกหักทันที, ดึงถ่วงกระดูกหัก, เฝือกบทคัดย่อ
การศึกษาเปรียบเทียบวิธีการรักษา 2 แบบ โดยรวบรวมข้อมูลเชิงสังเกตแบบย้อนหลัง ในผู้ป่วยกระดูก ฟีเมอร์หักในเด็กอายุระหว่าง 2-7 ปี จำนวน 20 ราย ในปี 2538-2552 แบ่งเป็นผู้ป่วย 2 กลุ่ม กลุ่มละ 10 รายกระดูกหักที่ส่วนกลางของฟีเมอร์ ชนิด spiral, transverse หรือ oblique ชนิด noncomminuted และชนิด closed โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา เปรียบเทียบวิธีการรักษา และผลการรักษา โดยศึกษาจากบันทึกประวัติผู้ป่วย และภาพถ่ายทางรังสีวิทยา และประมวลผลด้วยสถิติ independent t-test วิธีแรกใส่เฝือกดามกระดูกหักทันที (im-mediate spica cast หรือ early spica cast) พบว่าหลังใส่เฝือกไปหนึ่งสัปดาห์ เอ็กซเรย์พบแนวกระดูกคือ มุม varus / valgus, มุม anterior / posterior และการเกยสั้น (shortening) เพิ่มขึ้นอยู่ในแนวกระดูกยอมรับไม่ได้ต้องตัดเฝือกที่ใส่ครั้งแรกออกแล้วดึงกระดูกใหม่ ใส่เฝือกใหม่จำนวน 4 ราย ดัดเฝือกปรับแนวกระดูกให้ดีขึ้น 1 ราย (50% ของผู้ป่วย) ซึ่งเป็นปัญหาในการรักษา วิธีที่สอง คือ การดึงถ่วงกระดูกหักไว้ก่อนด้วย proximal tibial skeletal traction พบว่าควบคุมแนวกระดูกทั้งมุม varus / valgus, มุม anterior / posterior และการเกยสั้นได้ดี ดึงจนกระดูกติดแล้วนำไปใส่เผือก (traction, followed by spica cast) ค่ามุม varus / valgus, มุม anterior / posterior และการเกยสั้นของแนวกระดูกในการรักษาสัปดาห์แรกของกลุ่มแรกมากกว่ากลุ่มสองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผลการรักษาทั้งสองกลุ่มได้ผลเป็นที่ยอมรับได้
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

