การพัฒนารูปแบบการดูแลเด็กแบบการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ของคลินิกสุขภาพจิตเด็ก โรงพยาบาลหล่มสัก อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
คำสำคัญ:
รูปแบบการดูแลเด็ก, การมีส่วนร่วม, สุขภาพจิตเด็กบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนารูปแบบการดูแลเด็กแบบการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลหล่มสัก ประชากรคือ กลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผู้ปกครองเด็ก ครู รวม 70 คน เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ กระบวนการมีส่วนร่วม 4 ขั้นตอน: ขั้นวางแผน ขั้นปฏิบัติการ ขั้นสังเกตการ และขั้นประเมินผลและสะท้อนข้อมูล เก็บข้อมูลเชิงปริมาณจากแบบสอบถามและสถิติการเข้าถึงบริการ เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพจากแบบสัมภาษณ์และสนทนากลุ่ม ผลการศึกษา พบว่า จากการวิเคราะห์ปัญหาพบว่าทุกภาคส่วนยังขาดความรู้และความเข้าใจในการดูแลเด็กที่ถูกต้องตามทฤษฎี จึงได้พัฒนาความรู้ พบว่า ผลการเปรียบเทียบความรู้ก่อนและหลังด้วยสถิติ paired sample t-test พบว่า ระดับความรู้หลังพัฒนารูปแบบแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ขั้นสะท้อนข้อมูล ได้ร่วมกันพัฒนาและสังเคราะห์รูปแบบการดูแลเด็ก รูปแบบ SCC Lomsak Model โดยมี 3 ระบบ ดังนี้ (1) ระบบคัดกรองพัฒนาการเด็ก โปรแกรม DSPM กลุ่มครูใช้โปรแกรม DSPM Hero ผู้ปกครองใช้โปรแกรม Triple-P (2) ระบบดูแลรักษา จัดให้มีการดูแลตามมาตรฐานกระทรวงกำหนด (3) ระบบติดตาม ชุมชนสามารถติดตามและเฝ้าระวังเด็กที่เข้าโปรแกรมดูแลและติดตามรักษาได้ครบกำหนด ระยะที่ 3 การประเมินผลการใช้รูปแบบพบว่า ระดับการมีส่วนร่วมภาพรวมระดับปานกลาง ผลความครอบคลุมการเข้าถึงบริการในปี 2561-2565 ร้อยละ 58.7, 43.7, 58.8, 51.3, 86.6 ตามลำดับ ในปี 2565 จำนวนเข้าถึงบริการเพิ่มขึ้นผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัดที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด (ร้อยละ 75.0) ในการนำรูปแบบไปใช้ควรเน้น กระบวนการมีส่วนร่วมในการวางแผน และเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกัน จะทำให้เกิดการมีส่วนร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจนสำเร็จ
Downloads
เอกสารอ้างอิง
นภัทร สิทธาโนมัย. ภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นที่ได้รับ การส่งปรึกษาสาขาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น จากแผนกผู้ป่วยในโรงพยาบาลศิริราช ระหว่างปี พ.ศ. 2550-2554. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย 2565;36(8):601-10.
กรมสุขภาพจิต. รายงานประจำปี กรมสุขภาพจิต ปีงบประมาณ 2564 [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ14 ก.ย. 2567. แหล่งข้อมูล: https://dmh.go.th/report/dmh/rpt_year/view.asp?id=462
Cohen JM, Uphoff NT. Participation’s place in rural development: seeking clarity through specificity. World Dev 1980;8(2):213-35.
Health Data Center. กลุ่มรายงานมาตรฐาน: ข้อมูลเพื่อตอบสนอง service plan สาขาสุขภาพจิตและจิตเวช: ผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นเข้าถึงบริการ (workload) [อินเทอร์เน็ต]. 2022 [สืบค้นเมื่อ 27ก.ย. 2565]. แหล่งข้อมูล:https://pnb.hdc.moph.go.th/hdc/ reports/page .php?cat_id=ea11bc4bbf333b78e6f53a26 f7ab6c89
Kemmis S, McTaggart R. The action research planner. 3
rded. Geelong: Deakin University; 1988.
สุทิน ชนะบุญ. สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูลในงานวิจัยด้านสุขภาพเบื้องต้น. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2560.
ยุวดี อ่ำประยูร. กระบวนการกระตุ้นพัฒนาการทางภาษาของเด็กออทิสติกโดยผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการรักษา. วารสารราชานุกูล 2565;34:23-27.
จิตณพัฒน์ ยอดไกรศรี. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตในผู้ดูแลเด็กสมาธิสั้น ณ แผนกผู้ป่วยนอกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย 2567;1(1):7-20.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 กระทรวงสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

