อุปกรณ์หักแอมป์ Ampoule Safety Cutter

บทคัดย่อ

การศึกษานี้ได้นำรูปแบบวิจัยเชิงปฏิบัติการมาใช้ร่วมกับกระบวนการ CQI (Continuous Quality Improvement) โดยใช้กรอบแนวคิดการพัฒนาตามวงจร PDCA (Plan-Do-Check-Act) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานวัตกรรมอุปกรณ์หักแอมป์สำหรับป้องกันการบาดเจ็บขณะปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มตัวอย่างคือพยาบาลวิชาชีพกลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก จำนวน 40 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วยอุปกรณ์หักแอมป์ Ampoule Safety Cutter เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินได้แก่ แบบบันทึกการใช้แรงและการได้เปรียบเชิงกล แบบรายงานอุบัติการณ์บาดเจ็บจากวัตถุมีคมบาด และแบบประเมินความพึงพอใจต่อนวัตกรรม วิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย โดยให้กลุ่มตัวอย่างทดลองใช้นวัตกรรมและเก็บข้อมูลระหว่างเดือนมีนาคม 2565 ถึงเดือนมีนาคม 2566 ผลการศึกษาพบว่า อุปกรณ์หักแอมป์ถูกพัฒนาโดยใช้กระบวนการ PDCA จำนวน 4 รูปแบบ สามารถหักแอมป์ยาที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางของปากขวดตั้งแต่ 80 – 150 มิลลิเมตร (ปริมาตร 1 – 50 มิลลิลิตร) การทดสอบประสิทธิภาพของนวัตกรรม ช่องเล็กที่สุดสำหรับหักแอมป์ปริมาตร 1 มิลลิลิตร ใช้แรงในการหักแอมป์ 34.98 Nm ช่องใหญ่ที่สุดจะใช้แรงในการหักแอมป์ 4.01 Nm โดยที่ทุกช่องมีการได้เปรียบเชิงกลมากกว่า 1 ถือได้ว่าอุปกรณ์นั้นมีประสิทธิภาพในการผ่อนแรง เปรียบเทียบระยะเวลาระหว่างการหักแอมป์ด้วยมือพบว่า ใช้ระยะเวลาในการหักแอมป์ลดลงเหลือ 5 – 10 วินาทีต่อครั้ง จากเดิมที่ใช้เวลา 20 - 30 วินาทีต่อครั้ง มีผลให้ผู้ป่วยได้รับยาเร็วขึ้นร้อยละ 66.67 - 75.00 ตลอดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลไม่พบการเกิดอุบัติการณ์บาดเจ็บจากวัตถุมีคมบาด ในกลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน อัตราอุบัติการณ์ฯ ลดลงร้อยละ 100 กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อนวัตกรรมทุกข้อในระดับมากที่สุด ร้อยละ 96.39 (Mean=4.82, SD=0.40) จากการศึกษาครั้งนี้ การใช้นวัตกรรมอุปกรณ์หักแอมป์ยา Ampoule Safety Cutter ส่งผลให้ผู้ป่วยที่มารับบริการในกลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ได้รับยาช่วยชีวิตที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ได้มีการเผยแพร่เพื่อใช้ประโยชน์ในหอผู้ป่วยและหน่วยงานสาธารณสุขอื่น ๆ ต่อไป