การตรวจการติดเชื้อวัณโรคอย่างรวดเร็วโดยการตรวจสารแกมมาอินเตอร์เฟอรอนในตัวอย่างเลือด

บทคัดย่อ

การวินิจฉัยวัณ โรคได้อย่างถูกต้องรวดเร็วมีความสำคัญต่อการควบคุมวัณโรค กระบวนการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันแบบพึ่งเซลล์ต่อการติดเชื้อวัณโรค จะมีการผลิตสารอินเตอร์เฟอรอนแกมมา (IFN-γ) ที่จำเพาะต่อแอนติเจนของเชื้อวัณโรค สามารถตรวจวัดปริมาณสาร IPN-γ ด้วยวิธี ELISA โดยใช้ชุดทดสอบ QuantiFERON-TB จากการศึกษาในกลุ่มประชากร 130 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยจากอาการและประวัติเป็นผู้ป่วยหรือสงสัยเป็นวัณโรค 60 ราย พบว่าจำนวน 50 รายมีระดับสาร IFN-γ สูงกว่า 0.35 IU/ml บ่งชี้เป็นผู้ป่วยระยะแพร่เชื้อ กลุ่มผู้สัมผัสโรคซึ่งมีผู้ป่วยร่วมบ้าน 50 ราย พบว่าจำนวน 14 ราย มีระดับสาร IFN-γ สูงกว่า 0.35 IU/ml บ่งชีเป็นผู้ติดเชื่อไม่มีอาการ และในกลุ่มกลุ่มผู้มีสุขภาพแข็งแรงไม่มีผู้ป่วยวัณโรค ร่วมบ้านส่วนหนึ่งเป็นชาวต่างชาติ จำนวน 2 ใน 20 ราย มีระดับสาร IFN-γ สูงกว่า 0.35 IU/ml ตรวจสอบ คุณภาพของการวิเคราะห์จากสารละลาย IFN-γ มาตรฐานที่ความเข้มข้น 4.0, 1.0, 0.25 และ 0 IU/ml ซึ่งใช้สร้างเส้นกราฟมาตรฐานทุกครั้งที่มีการวิเคราะห์ มีค่าเฉลี่ย OD₄₅₀ 0.930, 0.271, 0.103 และ 0.045 ตามลำดับอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ โดยเกณฑ์มาตรฐานของชุดทดสอบกำหนดว่าสารละลาย IPN-γ มาตรฐานที่ความเข้มข้น 4.0 IU/ml จะต้องมีค่า OD,go ≥ 0.600 และที่ 0 IU/ml มีค่า ≤ 0.150 วิธีการนี้ช่วยวินิจฉัยวัณโรค สามารถตรวจการติดเชื้อวัณโรคในผู้ป่วยระยะแพร่เชื้อและผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ โดยการตรวจตัวอย่างเลือดได้ผลตรวจรวดเร็วมาก