สภาพปัญหาการได้ยิน ความดังเสียงบนถนน ความรู้และพฤติกรรมเกี่ยวกับการป้องกันการสูญเสียการได้ยิน ของตำรวจจราจรในเขตเทศบาลเมือง จังหวัดสุรินทร์
คำสำคัญ:
การสูญเสียการได้ยิน, ระดับเสียงเฉลี่ยบนถนน, ตำรวจจราจร, จังหวัดสุรินทร์บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการศึกษาภาคตัดขวางเรื่องสมรรถภาพการได้ยืน ระดับความดังเสียงบนท้องถนน ความรู้และพฤติกรรมเกี่ยวกับอันตรายและการป้องกันเสียง ของตำรวจจราจรในเขตเทศบาลเมือง จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 31 คน ใช้แบบสอบถามเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ความรู้ (KR 20 = 0.86) และพฤติกรรมเกี่ยวกับการ ป้องกันการสูญเสียการได้ยิน (Cronbach's alpha coefficient 0.62) และใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐานในการตรวจวัดการได้ยืนและระดับความดังเสียง 16 จุด บนถนนสายหลัก 7 สาย
การวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศชายทั้งหมด มีอายุเฉลี่ย 38.42, SD 5.19 ส่วนใหญ่มีสถานภาพสมรสการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นดาบตำรวจ มีอายุน้อยกว่า 45 ปี (48.4%) ทำงานน้อยกว่า 6 ปี สูบบุหรี่และระยะเวลาที่สัมผัสเสียงเฉลี่ย 8.7, SD 3.5 ชั่วโมงต่อวัน การตรวจวัดเสียงบนถนนพบว่า ระดับความ ดังเสียงสูงสุดตลอดระยะเวลาการทำงานภายใน 1 วัน มีค่าอยู่ในช่วง 92.6-121.5 เดซิเบลเอ เฉลี่ย 67.13-73.77เดซิเบลเอ ผลตรวจการได้ยินในช่วงความถี่ 500-6,000 เฮิรตช์ พบว่า ร้อยละ 54.8 มีการได้ยินปรกติ แต่ร้อย-ละ 45.2 มีสภาพการได้ยินผิดปรกติ โดยแบ่งเป็นหูซ้ายผิดปรกติร้อยละ 29.0 หูขวาผิดปรกติร้อยละ 6.5 และ หูทั้งสองข้างผิดปรกติร้อยละ 9.7 ในส่วนของความรู้และพฤติกรรมเกี่ยวกับการป้องกันการสูญเสียการได้ยิน พบว่า ร้อยละ 71.0 ความรู้อยู่ในระดับปานกลาง ขณะที่ร้อยละ 58.1 มีพฤติกรรมที่ควรปรับปรุง เช่น ชอบใช้ปากกาไม้ ของมีคม แคะหูแรงๆ จึงควรมีการเลือกใช้หมวกจราจรที่มีที่อุดหู (ear plug) มีการรณรงค์สร้างเสริมพฤติกรรมการป้องกันการสูญเสียการได้ยินให้แก่ตำรวจจราจรอย่างต่อเนื่อง
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

