ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันตนเอง จากโรคโควิด-1 9 ของผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้แต่ง

  • แก้วใจ มาลีลัย วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • ปรีดาภรณ์ ฤทธิรณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสองห้อง อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์
  • ณิณาภัทร ผุดเกตุ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหัวโพน อำเภอเมือง จังหวัดนครพม

คำสำคัญ:

โรคโควิด-19, ผู้สูงอายุ, พฤติกรรมการป้องกันตนเอง, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง

บทคัดย่อ

การวิจัยแบบภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 ของผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง เก็บข้อมูลระหว่างเดือน กันยายน 2564 ถึง มกราคม 2565 กลุ่มตัวอย่างคือผู้สูงอายุตอนต้นอายุ 60-69 ปี ที่มีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง อำเภอเดชอุดม จังหวัดวัดอุบลราชธานี จำนวน 320 ราย สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ ไคสแควร์ ผลการวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 69.1 อายุเฉลี่ย 63.71 ปี สถานภาพสมรส ร้อยละ 80.3 จบการศึกษาระดับประถมตอนต้น ร้อยละ 44.1 มีอาชีพเกษตรกร ร้อยละ 79.1 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 3,076 บาท และมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน ร้อยละ 43.1 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความรู้เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ระดับมากร้อยละ 98.8 มีทัศนคติในการป้องกันโรคโควิด-19 ระดับมากร้อยละ 40.3 และมีพฤติกรรมป้องกันโรคโควิด-19 ระดับมากร้อยละ 54.4 ทัศนคติมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันโรคโควิด-19 ของผู้สูงอายุอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โครงการส่งเสริมให้ความรู้ ทัศนคติ และเพื่อให้ผู้สูงอายุปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการป้องกันตนเองสามารถช่วยลดภาวะความเสี่ยงในการติดเชื้อ ลดอัตราการป่วยที่มีอาการรุนแรง และช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-10-31

วิธีการอ้างอิง

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้