ความไม่ตระหนักและการไม่สามารถควบคุมภาวะความดันโลหิตสูง ของประชาชนวัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุในชุมชนชนบท จังหวัดน่าน

ผู้แต่ง

  • กัตติกา ธนะขว้าง โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว น่าน
  • พิมลพรรณ คุณสิทธิ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว น่าน

คำสำคัญ:

ภาวะความดันโลหิตสูง, ความชุก, ความตระหนัก, การควบคุม

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาความชุกที่แท้จริงของโรคความดันโลหิตสูง และประเมินความไม่ตระหนักและการไม่สามารถควบคุมภาวะความดันโลหิตสูงได้ของประชากรวัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุในชุมชนชนบท โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากโครงการสำรวจภาวะสุขภาพของประชาชนในชุมชนใน พ.ศ. 2547 ของอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน กลุ่มตัวอย่างในการศึกษานี้คือประชาชนที่มีอายุ 35 ปี ขึ้นไป จำนวน 3,022 คนโดยภาวะความดันโลหิตสูงกำหนดที่ความดันซีสโตลิค มากกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิเมตรปรอท หรือความ ดันไดแอสโตลิค มากกว่าหรือเท่ากับ 90 มิลลิเมตรปรอท หรือผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิต สูงมาก่อน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การศึกษาพบว่า ความชุกของภาวะความดันโลหิตสูงของประชากรในชุมชน ร้อยละ 19.2 แต่เมื่อปรับแก้โดยคำนวณรวมกับบุคคลที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง พบว่าความชุกทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 28.3 โดยความชุกเพิ่มขึ้นตามอายุ ในประชาชนที่มีภาวะความดันโลหิตสูงทั้งหมด ร้อยละ 43.9 ขาดความตระหนักหรือไม่ทราบว่ามีภาวะความ ดันโลหิตสูง ซึ่งพบในวัยผู้ใหญ่มากกว่าผู้สูงอายุ (ร้อยละ 53.2 และ 31.6) และพบผู้ทราบว่าเป็นโรคแต่ไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาแต่ควบคุมไม่ได้ ร้อยละ 42.7 โดยพบในวัยสูงอายุมากกว่าวัยผู้ใหญ่ (ร้อยละ 49.4และ 36.5) จากข้อคันพบครั้งนี้ ภาวะความดันโลหิตสูงยังมีความชุกสูงในชุมชน แต่ความตระหนักและการควบคุมความดันโลหิต ยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ ดังนั้นโปรแกรมที่เหมาะสม ในการคัดกรอง การให้สุขศึกษาเพื่อป้องกันและรักษาภาวะความดันโลหิตสูงในชุมชน ควรได้รับการพัฒนาอย่างเร่งด่วน

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-01-17

วิธีการอ้างอิง

ฉบับ

บท

นิพนธ์ต้นฉบับ