การเคลือบหลุมร่องฟันกับสภาวะฟันกรามแท้ ซี่แรกของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 3 จังหวัดนครสวรรค์ ปีการศึกษา 2550

บทคัดย่อ

การศึกษาแบบสังเกตการณ์ย้อนหลังนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบสภาวะฟันกรามแท้ซี่แรกของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2550 จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งได้รับและไม่ได้รับการเคลือบหลุม ร่องฟันเมื่ออยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2548 โดยใช้ข้อมูลการตรวจสุขภาพช่องปากเด็กในโครงการยิ้มสดใสเด็กไทยฟันดีจำนวน 1,604 คน มีฟันกรามแท้ซีแรกขึ้นครบ ปราศจากฟันผุ ไม่เคยได้รับการเคลือบหลุมร่องฟัน และจำเป็นต้องเคลือบหลุมร่องฟัน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา ไคสแควร์และการทดสอบค่าที

การศึกษาพบว่านักเรียนที่ได้และไม่ได้เคลือบหลุมร่องฟันมีอัตราการปราศจากฟันผุของฟันกรามแท้ซี่แรกเป็นร้อยละ 84.1 และ 80.6 ตามลำดับ ในภาพรวมการเคลือบหลุมร่องฟันกรามแท้ซี่แรกไม่มีความ สัมพันธ์กับภาวะปราศจากฟันผุของฟันกรามแท้ซี่แรก (p>0.05) นักเรียนที่ได้รับการเคลือบหลุมร่อง-ฟันมี ค่าเฉลี่ยฟันผุถอนอุด (DMFT) ฟันผุ (DT) ฟันถอน (MT) และฟันอุด (FT) เป็น 0.27 (SD 0.73), 0.20 (SD 0.63) และ 0.07 (SD 0.37) ซีต่อคนตามลำดับ นักเรียนที่ไม่ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันมีค่าเป็น 0.32 (SD 0.73) 0.27 (SD 0.63) 0.003 (SD 0.05) และ 0.04 (SD 0.27) ซี่ต่อคนตามลำดับ ค่าเฉลี่ยฟันผุ (DT) ของนักเรียนที่ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟัน 0.20 (SD 0.63) มีความแตกต่างจาก นักเรียนที่ไม่ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟัน (0.27, 0.63) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value 0.044) เมื่อ พิจารณาเฉพาะกลุ่มที่มีฟันน้ำนมผุพบว่านักเรียนที่มีฟันน้ำนมผุถอนอุดเฉลี่ยตั้งแต่ 7 ซี่ขึ้นไป (dmft > 6) ที่ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันกรามแท้ซี่แรกมีโอกาสที่ฟันกรามแท้ซี่แรกจะปราศจากฟันผุมากกว่านักเรียนที่ไม่ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟัน 1.77 เท่า (p-value 0.004)