การเปรียบเทียบการผ่าตัดนิ่วในไตด้วยวิธี Percutaneous Nephrolithotomy และผ่าตัดแบบเปิด
คำสำคัญ:
การผ่าตัดนิ่วในไต, PCNLบทคัดย่อ
การรักษานิ่วในไตมีหลายวิธีแต่การผ่าตัดโดยใช้กล้องส่องผ่านผิวหนัง (percutaneous nephrolitho-tomy, PCNL) ปัจจุบันถือว่าเป็นการผ่าตัดที่นิยมและเป็นที่ยอมรับทั่วไป เนื่องจากไม่ invasive และระยะฟื้นตัวเร็วเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิด (open surgery) จึงศึกษาย้อนหลังเพื่อเปรียบเทียบผลการ รักษาและภาวะแทรกซ้อนระหว่างการผ่าตัดนิ่วในไตด้วยวิธี PCNL กับการผ่าตัดแบบเปิด ในผู้ป่วยจำนวน 79 รายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 ถึงเดือนกันยายน 2551 แยกเป็นกลุ่มที่ทำ PCNL จำนวน 41 คนและกลุ่มที่ทำผ่าตัดแบบเปิด จำนวน 38 คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา chi-square test และ t-testสภาวะทั่วไปก่อนผ่าตัดของทั้งสองกลุ่มใกล้เคียงกันผลลัพธ์ในกลุ่มที่ทำ PCNL มีข้อดีกว่าผ่าตัดแบบเปิดในเรื่องการให้เลือด ภาวะไข้ จำนวนครั้งของการฉีดยาแก้ปวด โดยการให้เลือดหลังผ่าตัดในกลุ่มที่ทำ PCNL มีผู้ป่วยที่ต้องให้เลือดร้อยละ 7.32 ส่วนในกลุ่มผ่าตัดแบบเปิดต้องให้เลือดร้อยละ 50 (P-value « 0.01)ภาวะไข้หลังผ่าตัดพบร้อยละ 21.95 ในกลุ่มที่ทำ PCNL และร้อยละ 50 ในกลุ่มที่ทำผ่าตัดแบบเปิด (P-value < 0.05) ในกลุ่ม PCNL ฉีดยาแก้ปวดกลุ่มมอร์ฟนเฉลี่ย 0.78 ครั้งเทียบกับ 2.39 ครั้งในกลุ่มผ่าตัดแบบเปิด (p-value < 0.01) ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันคือ stone free rate และระยะวันนอนโรงพยาบาล กลุ่มที่ทำ PCNL มี stone free rate ร้อยละ 68.29 เทียบกับกลุ่มผ่าตัดแบบเปิด ซึ่งมี stone free rate ร้อยละ 78.95 (p-value > 0.05) ระยะวันนอนโรงพยาบาลเฉลี่ย 6.76 วันในกลุ่มที่ทำ PCNL และ 7.55 วันในกลุ่มผ่าตัดแบบเปิด (p-value > 0.05) กลุ่มที่ทำ PCNL มีข้อด้อยกว่าผ่าตัดแบบเปิด ในด้านเวลาที่ใช้ในการทำผ่าตัดซึ่งใช้เวลาในการทำผ่าตัด 152 นาที ส่วนกลุ่มผ่าตัดแบบเปิด ใช้เวลา 103 นาที (p-value < 0.01) นอกจากนี้กลุ่มที่ทำ PCNL พบว่าทำผ่าตัดไม่สำเร็จ 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 12.2 ซึ่งต้องรักษาด้วยวิธีอื่นแทน ในกลุ่มที่ทำ PCNL พบภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและต้องผ่าตัดไตออก 1 รายเนื่องจากเกิด arteriovenous fistula ถึงแม้ว่าการทำ PCNL จะมีโอกาสทำไม่สำเร็จหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอยู่บ้าง แต่โดยทั่วไปข้อด้อยที่พบจะลดลงเมื่อมีการทำมากขึ้น มีความชำนาญมากขึ้น แต่มีข้อดีหลายประการที่เหนือกว่าการผ่าตัดผ่าตัดแบบเปิด
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

